เมื่อเวลา15.00น. วันที่30มีนาคม2561 นายกลิน ที.เดวีส์ เอกอัคราชฑูตประเทศสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและคณะเดินทางไปยังพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมในงานเปิดอาคารศูนย์สุขภาพเอ็มพลัส เลขที่ 997/5 ถนนสถานพยาบาล ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นศูนย์สุขภาพชุมชนเพื่อให้บริการแก่กลุ่มผู้ที่เสียงต่อการติดเชื้อเอชไอวี หรือ เอดส์ โดยเฉพาะแก่กลุ่มผู้มีเพศสัมพันธ์ชายกับชาย สาวประเภทสอง และหญิงบริการเป็นแห่งแรกของพื้นที่จังหวัดเชียงราย
โดยมีนายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้การต้อนรับก่อนที่นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย แพทย์หญิงเสาวณีย์ วิบุลสันติ ผู้แทนอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นายกริน ที.เดวีส์จะกล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาโรคเอดส์ และแสดงความยินดีในการเปิดศูนย์บริการดังกล่าว
พร้อมมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุขของไทย กับนายพงศธร จันทร์เลื่อน ผู้อำนวยการมูลนิธิเอ็มพลัส จากนั้นทำพิธีตัดริบบิ้นเปิดอาคารศูนย์
สำหรับมูลนิธิเอ็มพลัส เป็นองค์กรที่มีเครือข่ายเป็นองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ USAID และองค์กรแฟมิลี่เฮลท์ อินเตอร์เนชั่นแนล รวมทั้งทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย โดยหลังการเปิดศูนย์ดังกล่าวแล้วจะให้จะให้บริการด้านการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี รวมไปถึงบริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ โดยหลังการลงนามเอ็มโอยูแล้วจะได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ในการบริการแก่ชุมชนต่างๆ องค์กรเครือข่ายของมูลนิธิเอ็มพลัสและหน่วยงานภาครัฐของไทยจะสนับสนุนงบประมาณในแต่ละด้านในการดำเนินการใน จ.เชียงราย
และเมื่อผู้เข้ารับบริการตรวจพบว่ามีผลเลือดเป็นบวกหรือติดเชื้อเอชไอวีจะได้รับการช่วยเหลือส่งต่อเพื่อให้รับยาต้านไวรัสอย่างเร็วที่สุด โดยค่าใช้จ่ายบางส่วนจากการใช้บริการสามารถเบิกคืนได้ผ่านทางหน่วยงานด้านสาธารณสุข
นายกลิน ที เดวีส์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เปรียบเสมือนความสำคัญในอีกขั้นหนึ่งที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือชุมชนในการต่อสู่กับเอชไอวี ปีนี้ยังเป็นปีครบรอบ 200 ปีความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทยด้วย จึงมีความภูมิใจในความสัมพันธ์ด้านสาธารณสุขในการยุติปัญหาเอดส์ด้วย
ด้านนายแพทย์ประพันธ์ กล่าวว่า ศูนย์เอ็มพลัสดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่เกิดจากการสนับสนุนของรัฐบาลเพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเขาถึงบริการด้านเอชไอวีได้ และเชื่อว่าจะสามารถนำต้นแบบหรือโมเดลนี้ไปเป็นแนวทางเพื่อปรับใช้ทั่ประเทศไทยหรือประเทศอื่นๆ ได้ต่อไป//////