แจ้งจับคนขับรถชนเลียงผาตายในพื้นที่เขตอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2564 นายนิพนธ์ จำนงศิริศักดิ์   ผู้อำนวยการสำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง ) พร้อมด้วย นายอนันท์ ศรีผุดพ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี  แจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อให้มีการสืบสวนสอบสวน ดำเนินคดีกับผู้ที่ขับรถชนเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน ตาม พรบ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 มาตรา12 ในข้อหา ล่าหรือทำอันตรายแก่เลียงผา สัตว์ป่าสงวนถึงแก่ความตาย โดยการขับรถยนต์ชนแล้วหนี ระวางโทษจำคุก3ปี-15 ปี ปรับตั้งแต่ 3 แสน-1ล้าน 5 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ

และความผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ 2522 มาตรา 78 ผู้ใดขับรถ ในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น(เลียงผาถือว่าเป็นทรัพย์สินของรัฐ) ไม่ว่าจะเป็นความผิด ของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตามต้องหยุดรถ และให้ความช่วยเหลือ ตามสมควรและพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ใกล้เคียงทันที ในกรณีไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  

โดยก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ อุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ว่ามีเลียงผา สัตว์ป่าสงวน ถูกรถยนต์ชน แล้วหนีในบริเวณเส้นทางสายไทรโยค-บ้านเก่า ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี  บริเวณเขาเรด้าร์ จึงได้ไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบเลียงผาเพศผู้ มีสภาพขาหลังหัก ซี่โครงหัก สะโพกมีบาดแผล คางมีบาดแผลแต่ยังมีชีวิต จึงนำมาที่หน่วยพิทักษ์ป่าพุเลียบ เพื่อเตรียมจะส่งมารักษาที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าประทับช้าง แต่ในเวลาต่อ ระหว่างที่กำลังจะนำส่งมารักษา เลียงผาตัวดังกล่าวก็ได้เสียชีวิต 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นไปตามข้อสั่งการของนายวราวุธฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ  และสิ่งแวดล้อม จึงขอให้ผู้ขับรถยนต์ทุกคัน โปรดใช้ความระมัดระวัง ในการขับรถยนต์ เมื่อผ่านในเขตป่า หรือเขตอุทยาน ฯหากใช้ ความระมัดระวังอย่างเพียงพอ และขับรถโดยความเร็วไม่เกินตามอัตราที่กำหนดกฎหมายแล้ว หากมีสัตว์ป่าวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นกระชิดทำให้ถูกรถยนต์ชนทำให้บาดเจ็บ หรือตาย ก็เป็นเหตุสุดวิสัยผู้ขับรถยนต์ ก็ไม่มีความผิด   เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 2015/ 2520  

นอกจากนี้มาตรา13 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ก็บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดล่า ถ้าหากกระทำด้วยความจำเป็นเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากอันตราย หรือเพื่อสงวนหรือรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น และได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ     ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ  

เพราะฉะนั้น ผู้ใดขับรถยนต์ชนสัตว์ป่าแล้ว หากได้ใช้ความระมัดระวัง         อย่างเพียงพอ และไม่ขับรถเร็วเกินอัตราที่ราชการกำหนดแล้ว ผู้ขับรถยนต์ที่ชนสัตว์ป่านั้นไม่ต้องหนี ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯที่อยู่ใกล้เคียง หรือเบอร์โทรกรมอุทยานฯ 1362  เพื่อช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ถูกรถยนต์ชนโดยทันที ผู้ขับรถยนต์ดังกล่าวก็จะไม่มีความผิด  นอกจากจะเป็นการช่วยชีวิตสัตว์ป่าได้ทันท่วงที จะเป็นบุญกุศลในการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ป่า และต่อความสมบูรณ์ของสัตว์ป่าของประเทศไทยด้วย 

นายนิพนธ์ เพิ่มเติมว่า ล่า ตามความหมายของพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 หมายถึง เก็บ ดัก จับ ยิงฆ่า หรือทำอันตรายด้วยประการอื่นใด แก่สัตว์ป่าที่ไม่มีเจ้าของ และอยู่อย่างเป็นอิสระ และให้หมายความรวมถึง การไล่ การต้อน การเรียก การล่อหรือการอื่นๆ เพื่อเก็บ ดับจับ ยิง ฆ่า หรือทำอันตรายแก่สัตว์ป่านั้น…

ข่าวอื่นๆ