เฝ้าระวังเข้มข้นโรคลัมปีสกินป่วย 12ตัว ตาย 1 ตัวใน3อำเภอ กำชับเกษตรกรผู้เลี้ยง โค กระบือ ดูแล ต้องกางมุ้งและกำจัดแมลงดูดเลือด ขณะที่ปศุสัตว์เชียงรายทำการควบคุมโรคในวงจำกัด
วันที่ 10 มิถุนายน 2564 นายสัตวแพทย์พืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ติดตามการกำจัดแมลงดูดเลือด จำพวก เหลือบ ยุง ริ้น เพื่อควบคุมพาหะนำโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ในฝูง โค กระบือ ต.หัวง้ม อ.พาน จ.เชียงราย
ทั้งนี้ทางเกษตรกรได้นำอุปกรณ์พ่นควันกำจัดแมลงขนาดเล็ก หรือพกพา ง่าย สะดวก รวดเร็ว หาซื้อได้ทั่วไป มาดำเนินการพ่นหมอกควันเพื่อป้องกัน โค กระบือ ไม่ได้แมลงดูดเลือดมากัด อย่างไรก็ตามทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย เตรียมจัดหาสารกำจัดแมลงพาหะมาช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต่อไป ทั้งนี้ยังได้แนะนำให้กางมุ้งให้ โค กระบือ เพื่อป้องกันอีกทางหนึ่งด้วย
นายสัตวแพทย์พืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สถานการณ์ โรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ใน โค กระบือ เริ่มพบโรคฯ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน โดยมีพื้นที่ ที่พบการป่วยของ โคเนื้อ กระกอบด้วย พื้นที่ ต.โยนก อ.เชียงแสน จำนวน 3 ตัว ต.นางแล ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จำนวน 7 ตัว ตาย 1 ตัว และ ต.ป่าแงะ อ.ป่าแดด จำนวน 2 ตัว ซึ่งทุกพื้นที่ได้มีการดำเนินการควบคุมโรคทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศเป็นเขตควบคุมโรคระบาดชั่วคราวทั้งจังหวัดแล้ว เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดย ให้มีการเฝ้าระวังในรัศมี 50 กิโลเมตร ให้ ครอบคลุมทุกอำเภอของจังหวัดเชียงราย ให้มีการเข้มงวดการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ สั่งชะลอการเคลื่อนย้ายสัตว์โค กระบือ เข้าจังหวัดเชียงราย และข้ามถิ่น ทุกด่านมีการตรวจเข้ม ให้ป้องกันและควบคุมแมลงพาหะนำโรค โดยโรคนี้เป็นโรคเฉพาะในสัตว์โค กระบือ ไม่ติดต่อจากสัตว์สู่คน
///