จุลกฐิน ถิ่นไทลื้อโบราณบ้านหาดบ้าย อ.เชียงของ สืบสานประเพณี ส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินริมน้ำโขง สืบสานประเพณี ทอผ้ากฐิน แบบไทลื้อ
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 ที่บ้านหาดบ้าย ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม “ทอสายบุญ จุลกฐิน ถิ่นไทลื้อ” โดยมี พระเช็งกิม กตสิทุโธ เจ้าอาวาสวัดกิ่วกาญจน์ ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายเกษม ปันทะยม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลริมโขง ส่วนราชการต่างๆ ให้การต้อนรับ ซึ่งภายในงานมีการแสดงการเล่าเรื่องความเป็นมาขอพี่น้องไทลื้อ การแสดงแสงสีเสียงอย่างยิ่งใหญ่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ประเพณี “ทอสายบุญ จุลกฐิน ถิ่นไทลื้อโบราณ” ชาวบ้านหาดบ้าย และวัดหาดบ้าย ได้หยุดจัดมา 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด19 แต่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป การสืบสารประเพณีดี ๆ เช่นนี้ ต้องนำกลับมาให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก เพื่อสืบทอดประเพณีนี้ต่อไป และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาท่องเที่ยว ที่บ้านหาดบ้าย
“ทอสายบุญ จุลกฐิน ถิ่นไทลื้อโบราณ” เป็นการถวายผ้าจีวรเเด่พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาช่วงไตรมาส โดยการสืบสานตำนานผ้าทอ ซึ่งชาวไทลื้อเรียกว่า “พิธีผ้าทอทันใจ” คือชาวไทลื้อต้องทอผ้าให้เสร็จภายในวันเดียว หมายความว่า ต้องเริ่มจากการปลูกฝ้าย ในเดือนพฤษภาคม ของทุกปี ต่อด้วยกล่อมฝ้ายจัยมงคล ในเดือนสิงหาคม จนเมื่อถึงงานมหาบุญ(จุลกฐิน)ที่อยู่ในช่วงหลังออกพรรษาเดือนพฤศจิกายน
ชาวบ้านจึงค่อยตัดเย็บ ย้อม เเละถวายให้พระสงฆ์กรานกฐินให้เสร็จภายในเวลาเช้าวันหนึ่งจนถึงย้ำรุ่งของอีกวันหนึ่ง ดังนั้นชาวบ้านในสมัยก่อนจึงถือกันว่า การทำจุลกฐินมีอานิสงส์มากเพราะต้องใช้ความพยายาม อดทนมากกว่ากฐินเเบบธรรมดา (มหากฐิน)
การจัดงานนี้เป็นประเพณีอันดีงามนี้ และร่วมกันสืบทอดให้คนรุ่นใหม่ ได้เห็นและสามารถนำไปแบบอย่าง ในการส่งเสริมประเพณีที่เก่าแก่เอาไว้ เพราะ “ทอสายบุญ จุลกฐิน ถิ่นไทลื้อโบราณ” ณ บ้านหาดบ้าย ไม่ได้มีเฉพาะการประเพณีที่เก่าแก่ ยังมีการทอผ้าที่ชาวไทลื้อ สืบทอดกันมาและสามารถประกอบเป็นอาชีพเรื่องของผ้าทอ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะได้ต่อไป.