เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ชาวเมียนมา รอต่อแถวเพื่อข้ามแดน ผ่านทางด่านพรมแดนไทย-เมียนมา สะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย หอการค้าแม่สายชี้เงินสะพัดเพิ่มปีละกว่าหมื่นล้าน
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา ประธานหอการต้า อ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า การ กลับมาเปิดด่านพรมแดนไทย-เมียนมา สะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นผลดีต่อการค้าและการท่องเที่ยวของพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เงินสะพัดในเรื่องของการขนส่งสินต้าข้ามแดน และการท่องเที่ยวระหว่างแดน คาดว่ามีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่าวันละ 10-20 ล้านบาท โดยเฉพาะสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็นภายในครัวเรือน ซึ่งชาวเมียนมา นิยมบริโภคและใช้สินค้าจากประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ หากเป็นช่วงวันหยุดหรือวันนักขัตฤกษ์ มูลค่าการค้าจะเพิ่มอีกเท่าตัวเลยทีเดียว
น.ส.ผกายมาศ กล่าวด้วยว่า มูลค่าการค้าเหล่านี้ยังไม่รวมเงินรายได้ที่จะได้จากด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จากการเปิดด่าน ทั้งด้านการใช้จ่ายตามร้านอาหาร ร้านค้า ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ห้างสรรพสินค้า ที่ชาวเมียนมา นิยมมาใช้บริการ โดยเฉพาะทางด้านสุขภาพ ที่ชาวเมียนมา ที่มีเงินจะเข้ามาใช้บริการคลีนิคและสถานพยาบาลในฝั่งไทย ซึ่งแต่ละเดือนมีรายได้จากส่วนนี้เยอะมาก คาดว่าปีหนึ่งจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท บางปีอาจเทียบเท่าการค้าชายแดนที่บริเวณด่านแม่สายแห่งที่ 2 จะมีมูลค่าการค้ามากกว่า 28,000 ล้านบาท
“การเปิดด่านแม่สาย ในปีนี้คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนและเงินสะพัดมากกว่าทุกปี นอกจากในพื้นที่จะมีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้น่าเที่ยวทั้งถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน และเร็วๆนี้คาดว่าประมาณเดือนเมษายน ที่วัดพระธาตุดอยเวา อ.แม่สาย จะมีการเปิดแหล่งท่องเที่ยวสกายวอล์คชมวิวชายแดนไทย-เมียนมา เป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในประเทศไทย คาดว่าจะได้รับคงามนิยมจากนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก มีกลุ่มทุนจีนเข้ามาทำในกิจการโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงที่หลากหลาย ซึ่งจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพื้นที่และอาจผ่านพื้นที่แม่สาย หรือแวะมาท่องเที่ยวก็จะทำให้มีเงินสะพัดในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น” น.ส.ผกายมาศ กล่าว.