เร่งสำรวจป่องบนเพดาถ้ำทั้งเดินเท้าและนำเฮเลคอบป์เตอร์สำรวจ

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่25มิถุนายน2561 พันตำรวจเอกรังสิมัน สงเคราะห์ธรรม ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่32 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงราย นำแผนที่ของถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มาทำการมาร์คจุด เพื่อทำการเดินเท้าสำรวจ การหาป๋องที่อยู่เหนือถ้ำหลวง หลังจากมีชาวบ้านในท้องถิ่นบอกว่า มีป่องเหนือถ้ำอยู่2จุด ความลึกจากป่องด้านบนลงด้านล่าง ประมาณ1,000เมตร ซึ่งจะเป็นการสำรวจทั้งการเดินเท้า และบินสำรวจด้วยเฮลิคอป์เตอร์ แต่ขณะนี้เกิดอุปสรรคมีฝนตกลงมา แต่ก็ต้องทำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหาเด็กหากมีการพบป่องจะเป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก เพราะก็จะมีการนำเจ้าหน้าที่การช่วยเหลือในการโรยตัวลงไปในถ้ำเพื่อสำรวจ

ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนเจ้าหน้าที่หน่วยซีล ได้ออกมาจากถ้ำเพื่อให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม ซึ่งเป็นผู้ที่สำรวจถ้ำมาตั้งแต่แรก เบื้องต้นพบว่าในถ้ำมีน้ำเพิ่มขึ้น เพราะมีฝนตกลงมา

ส่วนค้นหาของหน่วยซีล ขณะนี้ได้ทะลุเข้าไปในห้องโถงในถ้ำแล้วจำนวน2ห้อง ซึ่งพบร่องรอยของเด็ก ทั้งรอยเท้า และรอยมือของการเคลื่อนไหวของเด็ก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง โดยส่วกำลังเจ้าไปแล้วจำนวน 3ชุดจาก4ชุด

**นักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาให้กำลังใจญาติเด็ก**

นางสาวอณิรา ธินนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้ากหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลญาติของเด็กที่ติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อให้กำลังใจผู้ปกครองทุกคน และเตรียมให้การชข่วยเหลือต่อไปตามขั้นตอน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่นักจิตวิทยา โรงพยาบาลแม่สาย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคระาห์ รวมทั้งสาธารณสุขเชียงราย มาพูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อไม่เกิดภาวะเครียด และคอยให้กำลังตลอดเวลา ว่าเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่ในการช่วยเหลือเด็ก และอย่าเชื่อข่าวลือต่าง เพราะมีการปล่อยข่าวในทางลบจากผู้ที่มีความเชื่อในเรื่องคนทรงเจ้า

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ พบว่า เด็กชาย อดุลย์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ13ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเด็กที่ติดในถ้ำหลวง ไม่ผู้ปกครอง และอาศัยอยู่กับมูลนิธิแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะประสานงานต่อไป เพื่อแจ้งทางญาติให้ได้รับทราบซึ่งจะมีการลงพื้นที่ภูมิลำเนาของเด็กชายอดุลย์

/////

ข่าวอื่นๆ