สารพัดทุกข์ร้องนายกฯตู่ครม.สัญจร

แชร์ข่าว

หลากหลายกลุ่มยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้า ของการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่มหาวิทยาลัยภัฏเชียงราย เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีช่วย ทั้งคัดค้านการก่อสร้างโรงแต่งแร่ดีบุก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์บ้านป่าเปา เรื่องที่ดินทำกิน เงินกู้นอกระบบ ฯลฯ

 

เมื่อวันที่30ตุลาคม2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย  ยังคงดำเนินไปตามกำหนดการโดย พล..ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาถึงที่ประชุมตั้งแต่ช่วงเช้า โดยก่อนการประชุมนักศึกษาของมหาวิทยาลัยได้แสดงการเป่าเครื่องดนตรีแซ็กซ์โซโฟนและร้องเพลง คืนความสุขให้กับประชาชน  สร้างความประทับใจให้กับ พล..ประยุทธ ที่บอกกับกลุ่มนักศึกษาว่ารัฐบาลได้จัดวางแนวทางหรือโรดแมบเพื่ออนาคตของลูกหลานแล้วเพื่อให้เป็นอนาคตของชาติต่อไป

ขณะที่บรรยากาศการเดินทางไปร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรีของกลุ่มคนและบุคคลต่างๆ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยโดยศูนย์ดำรงธรรมได้จัดเตรียมสถานที่เป็นอาคารหอประชุมตั้งอยู่บริเวณสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ห่างไกลจากจุดประชุม ครม.สัญจร ให้เป็นสถานที่รับเรื่อง โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปรับเรื่องจากชาวบ้านซึ่งพบว่ากลุ่มมวลชนต่างๆ ที่เคยประสบปัญหามาก่อนหน้านี้และเคยไปร้องทุกข์ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วยังคงเดินทางไปร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าว

โดยกลุ่มหลักๆ ที่ไปร้องเรียนคือกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างโรงแต่งแร่ดีบุกในพื้นที่หมู่บ้านสันมะเค็ด หมู่ 9 .ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีนายประยุทธ แสนศักดิ์หาญ นำมวลชนเป็นตัวแทนชาวบ้านไปยื่นหนังสือโดยมีนายจุลพงษ์ ทวีศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับเรื่องไว้พร้อมแจ้งกับชาวบ้านจนถึงปัจจุบันเอกชนที่ระบุว่าจะไปก่อสร้างโรงงานดังกล่าว ยังไม่มีการขออนุญาตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลยดังนั้นจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและขอให้ชาวบ้านได้สบายใจต่อไป

นายประยุทธ กล่าวว่า โรงแต่งแร่ดังกล่าวจะก่อสร้างใกล้กับหนองบัวหลวงซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นทั้งแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและการท่องเที่ยวเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร ชาวบ้านเกรงว่าจะมีผลกระทบเรื่องสารเคมีไหลลงสู่น้ำและบ้านเรือนประชาชนเพราะตั้งอยู่บนที่สูงขณะที่หนองน้ำและบ้านเรือนอยู่ในที่ต่ำ รวมทั้งเกรงจะเกิดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเหมือนหมู่บ้านคลิตี้ล่าง จ.กาญจนบุรีจึงไม่อยากให้มีการก่อสร้าง

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มต่างๆ ชาวบ้านอื่นๆ เช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์บ้านป่าเปา หมู่ 4 .เจริญเมือง อ.พาน จ.เชียงราย นำโดยนายจันทร์ติ๊บ คำอ้าย ประธานกลุ่มที่ไปร้องเรียนขอให้ติดตามเรื่องเงินจากการจำหน่ายข้าวอินทรีย์ที่สมาชิกในกลุ่มได้ปลูกและจำหน่ายแล้วไม่ได้คืนโดยเป็นเงินรวมกันกว่า 3,728,555 บาท เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานต่างๆ มีการจัดตัวแทนเข้ารับเรื่องร้องทุกข์และแก้ไขปัญหาได้ตามขั้นตอน

ทั้งนี้ยังมีการเดินทางมายื่นขอความสวยเหลือจาก นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรม ทั้งเรื่องที่ดินทำกิน การถูกแจ้งความดำเนินคดีทั้งที่ไม่ได้กระทำผิด รวมทั้งในเรื่องเงินกู้นอกระบบ และอีกหลากหลายเรื่อง ซึ่งมีมากกว่า100เรื่อง ////

ข่าวอื่นๆ