“จิตอาสาภัยพิบัติ สกัดหมอกควัน ป้องกันไฟป่า”

“จิตอาสาภัยพิบัติ สกัดหมอกควัน ป้องกันไฟป่า” ปล่อยขบวนรถประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรับรู้ให้กับประชาชน

วันที่ 21 มกราคม 2563 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการหน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา “เราทำความดีเพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ด้วยกิจกรรม “จิตอาสาภัยพิบัติ สกัดหมอกควัน ป้องกันไฟป่า” ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถนนแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี พลตรี สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 พลตำรวจตรี ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธจังหวัดเชียงราย พันเอก พศิน แสงคำ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย(ฝ่ายทหาร) พันเอก ชาคริต ปรุงสุวรรณ์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 นาย ประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ปลัดจังหวัดเชียงราย และข้าราชการขั้นผู้ใหญ่ ตลอดทั้ง หัวหน้าส่วนราชการจิตอาสา กำลังพลจิตอาสา และประชาชนจิตอาสาพระราชทานเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียงกว่า 700 คน

ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนตามแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไข ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2563 เป็นห้วงระยะปฏิบัติการที่จะต้องเร่งสร้างการตระหนักรู้ให้กับประชาชนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ด้วยการสร้างความตระหนักรับรู้ ความเข้าใจ ความร่วมมือ และการมีส่วนร่วมให้กับทุกภาคส่วน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวมอบนโยบายด้านการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจําปี 2563 ให้กับประชาชนจิตอาสา ในการมีบทบาทเป็นผู้ช่วยเหลือประชาชนกำจัดวัชพืช และเป็นกระบอกเสียงในการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ และขอความร่วมมืองดเผาในที่โล่งแจ้งทุกชนิด ก่อนจะนำจิตอาสาทุกหมู่เหล่ากล่าวคำปฏิญาณ “เราทำความ ดี เพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” พร้อมกัน และปล่อยแถวขบวนรถประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรับรู้ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง

สำหรับโครงการจิตอาสาพระราชทาน เราทำความดีด้วยหัวใจ เป็นกิจกรรมตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มุ่งส่งเสริมให้มีการพัฒนาสิ่งแวดล้อม สิ่งสาธารณประโยชน์ และการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน ทั้งยังส่งผลให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความรัก ความสมัครสมานสามัคคี ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อให้เกิดความรัก ความผูกพัน ใน 4 สถาบันหลักของชาติได้แก่สถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชนอีกด้วย