วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอำเภอเชียงของ ได้จัดกิจกรรมจัดทำแนวป้องกันไฟป่าในพื้นที่ตำบลเวียง 9 หมู่บ้าน พร้อมกัน ก่อนที่จะมีการประกาศ 60 วันอันตราย เป็นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร จากบ้านหัวเวียง บ้านห้วยเม็ง บ้านห้วยกอก บ้านทุ่งพัฒนา บ้านทุ่งนาน้อย บ้านทุ่งทราย จนถึงบ้านทุ่งดุก รวมถึงบ้านสบสม และบ้านโจ้โก้ โดยระดมประชาชนและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการ ปกครอง ทหาร ตำรวจกว่า 1,200 คน ช่วยกันทำแนวกันไฟในพื้นที่ตำบลเวียงให้แล้วเสร็จโดยเร่งด่วน ส่วนอีก 6 ตำบลที่เหลือได้เร่งกำชับทุกหมู่บ้านที่มีพื้นที่ป่าให้รีบทำแนวกันไฟให้เสร็จโดยเร็วด้วย
สำหรับพื้นที่ป่าตามแนวป่าดอยยาวซึ่งมีระยะทางกว่า 25 กิโลเมตร จากตำบลศรีดอนชัยเขตติดต่ออำเภอเวียงแก่น ผ่านตำบลครึ่ง ไปจรดตำบลบุญเรืองเขตติดต่ออำเภอขุนตาล ซึ่งปีที่แล้วได้เกิดไฟป่าลุกลามอย่างรุนแรงครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงสำคัญที่จะต้องมีการวางแผนการบริหารจัดการร่วมกันอย่างรัดกุม โดยนายอำเภอเชียงของได้สั่งการให้มีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขไฟป่าและหมอกควันทั้ง 3 ตำบล เพื่อมาร่วมประชุมวางแผนดำเนินการ โดยนำบทเรียนจากปีที่ผ่านมาวิเคราะห์และวางแผนล่วงหน้าในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลศรีดอนชัย นอกจากนั้นจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งท้องที่และท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น และอำเภอขุนตาลมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือและร่วมวางแผนด้วย
นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ กล่าวว่า ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ได้มีมติสั่งการให้ทุกหมู่บ้านจัดชุดลาดตระเวนประจำหมู่บ้านออกลาดตระเวนตรวจตราผู้ลักลอบเผาป่าตามแผนยุทธการ “ย่อง ดัก จับ” อย่างเข้มข้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนเมษายน 2563 ถ้าหากพบไฟป่าเกิดขึ้นจะมีชุดปฏิบัติประจำทุกตำบลที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เทศบาล ทหาร ชรบ.พร้อมออกปฏิบัติการอย่างเข้มแข็ง และตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดไฟป่าอย่างทันท่วงที ในระหว่างนี้ ได้สั่งการให้ทุกหมู่บ้านจัดการประชุมคณกรรมการหมู่บ้านและประชาคมหมู่บ้านเพื่อปรึกษาหารือในการวางมาตรการชุมชนในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับหมู่บ้านอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้น การประชาสัมพันธ์ห้ามเผาทุกกรณี การรณรงค์ไถกลบตอซังข้าว การรวมกลุ่มทำปุ๋ยหมัก การจัดทำแนวกันไฟ และการวางแผนการลาดตระเวน โดยให้ทุกหมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนรายงานผลการดำเนินงานให้นายอำเภอเชียงของทราบเป็นระยะอย่างใกล้ชิด