วันที่13 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และนักธุรกิจลุ่มแม่น้ำโขง ได้เปิดเผยว่า จากกรณีรัฐบาลได้มีการยกเลิก Visa on Arrival หรือการขอวีซ่าได้โดยทันทีแก่ผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม เป็นต้นไปนั้น ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในระดับหนึ่งเช่นกัน แต่ถือเป็นความจำเป็นที่ภาคเอกชนจะต้องปรับตัวให้ได้ เพื่อรองรับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เคยมีอยู่มากที่ภาคเหนือและ จ.เชียงราย ซึ่งได้หายไปเกือบทั้งหมด เพราะมาตรการในประเทศจีนเองไม่ให้มีการเดินทางออกนอกประเทศอยู่แล้ว
“ในปัจจุบันภาคธุรกิจท่องเที่ยวของ จ.เชียงราย ยังคงดำเนินไปตามปกติ แม้อยู่ในภาวะฝืดเคือง โดยเน้นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศอื่นๆ โดยยืนยันว่าลุ่มแม่น้ำโขงในพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย ปลอดไวรัสโควิด-19 แน่นอน” น.ส.ผกายมาศ กล่าว
น.ส.ผกายมาศ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเอกชนท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำโขงยังคงนำเรือออกให้บริการตามปกติ โดยกรณีบริษัท แม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด ของตน ได้นำเรือท่องเที่ยวทั้งเรือแม่โขงเดลต้า กาสะลองคำ 1 และกาสะลองคำ 2 รองรับนักท่องเที่ยว โดยบริการชมแม่น้ำโขงในลักษณะเส้นทางสั้นๆจาก อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว ล่องไปตามสามเหลี่ยมทองคำ และใกล้เคียง ไปตามเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ-เวียงแก่น ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ของแม่น้ำโขง โดยไม่ได้ขึ้นฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงยืนยันว่ามีความปลอดภัยและแม่น้ำโขง รวมทั้ง จ.เชียงราย และประเทศเพื่อนบ้านแถบนี้ก็ปลอดการพบไวรัสโควิด-19 ดังนั้นนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มศึกษาดูงาน หรือคณะที่เกี่ยวข้องกับการปิดภาคเรียนสามารถเดินทางไปเยือนเพื่อชมแม่น้ำโขงได้อย่างต่อเนื่อง
“ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวด้วยทริป ระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจากท่าเรือเชียงแสนและนั่งวนๆ ออกไปกลางแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และบางคณะรับประทานอาหารกลางวันบนเรือด้วย ซึ่งยืนยันว่าหากต้องการหาช่วงเวลาปิดเทอมที่ปลอดภัยและส่งเสริมไทยเที่ยวไทยตามนโยบายของรัฐบาล การจัดประชุมสัมมนา ฯลฯ รวมทั้งมีความจำเป็นจากการถูกยกเลิกการเดินทางไปจัดกิจกรรมที่ต่างประเทศเพราะปัญหาไวรัสโควิด-19 ก็สามารถไปใช้บริการบนเรือนำเที่ยวลุ่มแม่น้ำโขงได้อย่างปลอดภัยดังกล่าว” น.ส.ผกายมาศ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้เคียงพบว่าที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา มีการเข้มงวดตรวจตราตามชายแดนอย่างต่อเนื่องโดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ติดตามดูแลนักท่องเที่ยวตามโรงแรมต่างๆ ส่วน สปป.ลาว ก็ยังไม่พบปัญหาและประชากรเบาบางขณะที่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่เป็นแหล่งที่ผู้คนมีมากก็หยุดดำเนินการชั่วคราวในช่วงนี้ไปแล้ว ส่วนชายแดนด้านประเทศจีนนั้นถือว่าได้ยุติการเดินทางเข้าออกแล้วจึงไม่มีผลต่อไวรัสในละแวกนี้อีกต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จ.เชียงราย ได้รายงานผลการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม-9 มีนาคม 2563 แล้วจำนวน 26,924 ราย โดยคัดกรองที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มากที่สุดจำนวน 13,684 ราย เนื่องจากมีการทำบินเป็นประจำทุกวัน ส่วนด่านพรมแดน อ.แม่สาย มีจำนวน 4,293 ราย ด่านพรมแดน อ.เชียงแสน จำนวน 6,932 ราย และด่านพรมแดน อ.เชียงของ จำนวน 2,015 ราย ซึ่งทั้งหมดยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด
งานพ่อขุนเม็งรา…
วันที่ 18 ธันวา…
สถานคุ้มครองสวั…