วันที่ 31 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในภาพรวมของจังหวัดเชียงราย ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันที่ 31 มีค. 63อสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอำเภอเมืองเชียงราย ค่าเฉลี่ย PM2.5 วัดได้ 143 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอำเภอแม่สายค่าเฉลี่ย PM 2.5 วัดได้ 189 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ
สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ของจังหวัดเชียงราย วันที่ 30 มีค.63 ข้อมูลจากดาวเทียมระบบ MODIS พบจุดความร้อนจำนวน 9 จุดใน 8 อำเภอ ดังนี้
1. เทิง 2 จุด
2. ขุนตาล 1 จุด
3. พญาเม็งราย 1 จุด
4. เมืองเชียงราย 1 จุด
5. แม่จัน 1 จุด
6. แม่ฟ้าหลวง 1 จุด
7. แม่สรวย 1 จุด
8. เวียงแก่น 1จุด
โดยจุดความร้อนลดลงจากวันก่อนจำนวน 26 จุด รวมจุดความร้อนสะสมระบบ Modis ตั้งแต่1 มค.-30 มีค.63 จำนวน 473 จุด
ข้อมูลจากดาวเทียมระบบ VIIRS พบจุดความร้อนจำนวน 181 จุดใน 15 อำเภอดังนี้
1. แม่จัน 27 จุด
2. เมืองเชียงราย 26 จุด
3. เวียงป่าเป้า 22 จุด
4. เวียงแก่น 17 จุด
5. ขุนตาล 15 จุด
6. แม่สรวย 15จุด
7. เทิง 14 จุด
8. พาน 14 จุด
9. พญาเม็งราย 10จุด
10. แม่ฟ้าหลวง 8 จุด
11. แม่ลาว 5 จุด
12. ป่าแดด 3 จุด
13. เชียงของ 2จุด
14. เวียงชัย 2 จุด
15. เวียงเชียงรุ้ง 1 จุด
โดยจุดความร้อนลดลงจากวันก่อนจำนวน 92 จุด รวมจุดความร้อนสะสมระบบ VIIRS ตั้งแต่ 1 ม.ค.-30 มีค.63 จำนวน 4,388 จุด
จากข้อมูลภาพถ่ายโดย สทอภ. (GISTDA) จากดาวเทียมระบบ VIIRS, Modis และ ข้อมูลลม วันที่ 30 มีนาคม 2563 พบว่า
– จุดความร้อนในประเทศเมียนมาสูงอย่างต่อเนื่อง
– จุดความร้อนกระจุกตัวบริเวณทั่วภาคเหนือ มีจุดความร้อนทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือ 1,463 จุด ลดลงจากวันก่อน 981 จุด พบจุดความร้อนมากในพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนฯ และพื้นที่อื่นๆ โดยจุดความร้อนพบมากที่ จังหวัดเชียงใหม่ 332 จุด น่าน 290 จุด และตาก 223 จุดตามลำดับ
จากภาพดาวเทียม สามารถสังเกตเห็นกลุ่มหมอกควันขนาดใหญ่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ประเทศเมียน มาและประเทศลาวโดยจังหวัดเชียงรายได้รับอิทธิพลลมมาจากทิศตะวันตกและลมใต้ซึ่งพัดพากลุ่มหมอกควันจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาสะสมในพื้นที่ประกอบกับอุณหภูมิที่ผกผันในระดับล่าง อากาศยกตัวได้น้อยในช่วงค่ำถึงเช้าและมีจุดความร้อนในพื้นที่บางส่วน ทำให้ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กและค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงรายยังคงเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอ.แม่สาย ซึ่งในพื้นที่อ.แม่สายไม่มีจุดความร้อนเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่มีกระแสลมพัดกลุ่มหมอกควันมาจากพื้นที่ใกล้เคียงและจากประเทศเพื่อนบ้านที่เกิดจุดความร้อนเป็นจำนวนมากจึงทำให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กและค่าคุณภาพอากาศสูงขึ้นผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สามารถติดตามคุณภาพจังหวัดเชียงรายได้ที่ http://air4thai.pcd.go.th/webV2/ https://yakkaw.com/ และ https://chiangrai.cmuccdc.org/
หรือ Application Air4Thai , Application Airvitual และ Application ยักษ์ขาววัดฝุ่น
อนึ่ง สำหรับค่าคุณภาพอากาศจากApplication Airvitual และ Application ยักษ์ขาววัดฝุ่น ยังมีความคลาดเคลื่อนจากมาตรฐานอยู่ แต่สามารถใช้เป็นข้อมูลแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบเพื่อเฝ้าระวังสุขภาพเบื้องต้น หากจะใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงการรายงานทางวิชาการควรใช้ข้อมูลจาก Application Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษเป็นหลัก
จังหวัดเชียงรายได้มีประกาศห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด 60 วันปลอดการเผา ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายตั้งแต่วันที่ 22 กพ.-21 เมย. 63และกำหนดมาตรการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กโดยนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฉีดพ่นละอองน้ำ ฉีดล้างถนน อาคาร รดน้ำต้นไม้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศทั่วทุกพื้นที่ตลอดจนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายและมาตรการต่างๆอย่างจริงจัง
การดำเนินการ : จัดชุดปฏิบัติการป้องกันและควบคุมไฟป่าร่วมระดับตำบลลาดตระเวนเน้นการป้องปรามและการประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง การจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยง และการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย โดยอำเภอเป็นแกนหลักในการวางแผน ระดมกำลัง และปฏิบัติการในระดับพื้นที่
จังหวัดเชียงรายได้ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5)ให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพอนามัยโดยให้ข้อปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบจากมลพิษหมอกควัน และสวมอุปกรณ์ป้องกันตนเอง รวมทั้งได้จัดเตรียมสถานที่ปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก( Safety Zone )เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้แล้ว โดยให้ประชาชนเข้าใช้บริการได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายซึ่งประชาชนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Application ยักษ์ขาววัดฝุ่น
จังหวัดเชียงรายได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนในการเข้าออกพื้นที่ป่าตั้งแต่วันที่ 10 มีค.-21 เมย.63 โดยให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้และอำเภอในท้องที่ตรวจตราควบคุมการเข้าพื้นที่ป่าอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการเผาในพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด
จังหวัดเชียงรายได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ และถึงเจ้าแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาวที่มีแนวชายแดนติดต่อกัน โดยขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์และรณรงค์เน้นย้ำให้ประชาชนลดการเผาทุกชนิดเพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน และได้ประสานการประชุมเพื่อดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันตามแนวชายแดนร่วมกัน ดังนี้
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วย พล.ต.อำนาจ ศรีมาก ผบ.ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควัน กองทัพภาคที่ 3 ส่วนแยก จ.เชียงราย พบปะกับนายเมียน ไนจ์ ผวจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ เพื่อหารือการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันตามแนวชายแดน
ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผวจ.เชียงรายและคณะ ประชุมร่วมกับรองผวจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์
พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.กองกำลังผาเมืองและคณะ ประชุมร่วมกับ ผบ.บก.ยศ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์
นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน จชร. และคณะ ประชุมร่วมกับเจ้าเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ประเทศสปป.ลาว