วันที่ 3 เมษยน 2563 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีลักลอบเผาป่าหลายราย โดยมีขึ้นหลังจากที่ จ.เชียงราย ได้มีประกาศห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด 60 วันปลอดการเผา ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.-21 เม.ย.2563 แต่ปรากฎว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยังคงมีการลักลอบเผาป่ากระจายไปในหลายอำเภอและเมื่อสมทบกับไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้านทำให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือพีเอ็ม 2.5 ในพื้นที่ยังคงหนาแน่น โดยล่าสุดวันนี้สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ อ.เมืองเชียงราย วัดค่าพีเอ็ม 2.5 ได้ 118 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ อ.แม่สาย วัดได้ 198 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนการจับกุมดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 1 ราย ส่วนขั้นตอนการสอบสวนขยายผล รอการจับกุมอีก 15 ราย และขณะนี้ทางจังหวัดเชียงราย ได้จัดชุดผสม ทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง เพื่อเป็นชุดเฉพาะกิจในการเข้าพื้นที่ตั้งแต่คืนนี้ เพื่อดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดการลักลอบเผาป่า ซึ่งมีจำนวน 30 ชุด จะกระจายไปทุกอำเภอที่มีความเสี่ยงไฟป่า
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวอีกว่า ในเรื่องการทำฝนหลวงนั้น ทางจังหวัดเชียงรายไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ทำเรื่องไปทุก 7 วัน มาตั้งแต่ต้นเดือน มีนาคม 2563 ซึ่งทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ทำการบินสำรวจให้กับจังหวัดเชียงราย ตามการร้องขอมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะวันนที่ 9 มีนาคม ที่ทางจังหวัดเชียงราย ได้ระดมให้มีการฉีดพ่นน้ำกันทั้งจังหวัด เพื่อร่วมกันสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ แต่ปรากฏว่าการสำรวจของเจ้าหน้าที่ พบว่า เมฆฝนอยู่สูงมาก จึงไม่สามารถสร้างฝนเทียมขึ้นมาได้ และตลอดระยะเวลา ทางจังหวัดเชียงราย ก็ร้องขอไปอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าเชียงราย ไม่มีความชุ่มชื้นที่จะสามารถทำฝนเทียมได้เลย
ส่วนในเรื่องที่มีกระแสในโซเชียล ที่ว่าไม่มีน้ำฉีดพ่น เพราะภัยแล้ง ในเรื่องนี้ทางจังหวัดเชียงราย เพียงต้องการให้ทุกบ้านที่มีความพร้อมให้มีการรดน้ำต้นไม้ หรือรถน้ำหลังคาบ้าน ดำเนินการช่วยกัน ไม่ได้เป็นการบังคับทุกบ้าน ซึ่งอย่างมาต่อว่ากันเลย เพราะการทำนั้นเป็นเพียงการสร้างในสิ่งที่เชื่อว่าจะสามารถให้เกิดขึ้นมาได้ อย่างน้อย บ้านไหนที่มีน้ำเพียงพอก็ทำให้ต้นไม้นั้นเกิดความชุ่มชื้นขึ้นมา
