ผู้ว่าฯยืนยันผู้ป่วยโควิดรักษาหายที่อำเภอเทิงกลับมาป่วยซ้ำผลตรวจไม่พบเชื้อโควิดแต่ต้องเฝ้าดูอาการและรักษาอย่างละเอียด ส่วนการปลดล็อคพร้อมให้ทำให้ชาวเชียงรายผ่อนคลายลงแต่ไม่ประมาท
วันที่ 21 เมษายน 2563 นายประจญปรัชญ์สกุลผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายให้สัมภาษณ์ว่าจากกรณีที่มีผู้ป่วยโควิด19 รายที่ 1 ของจังหวัดเชียงรายซึ่งแพทย์ทำการรักษาจนหายจนกลับบ้านไปที่อำเภอเทิงปรากฏว่าป่วยเป็นไข้สูงซ้ำอีกครั้งและได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ซึ่งจากการตรวจหาเชื้อไม่พบว่ามีเชื้อโควิด19 แต่อย่างใดเป็นเพียงการป่วยทั่วไปแต่เพื่อไม่เป็นการประมาทได้มีการทำการรักษาในห้องควบคุมโรคและเฝ้ารักษาอย่างใกล้ชิดโดยมีการตรวจหาเชื้อตามระยะเวลาการรักษา
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวถึงเรื่องที่หากรัฐบาลประกาศการผ่อนปรนในบางจังหวัดเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด19 ในส่วนของจังหวัดเชียงรายก็จะมีการยึดตามประกาศทางส่วนกลางเป็นสำคัญแต่วันนี้ทางจังหวัดเชียงรายได้เสนอให้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายพิจารณาในบางเรื่องแล้วโดยเฉพาะเรื่องที่กระทบต่อวิถีชีวิตของชาวเชียงรายอย่างเช่นเรื่องถนนตามเส้นทางต่าง ๆที่ปิดไว้ซึ่งเป็นถนนสายรองเชื่อมต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่และพะเยาอาจมีการเปิดแต่จะต้องถามประชาชนในพื้นที่ก่อนว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใดแต่การตรวจคัดกรองจะต้องคุมเข้มเท่าเดิม
ในส่วนของการเปิดศูนย์การค้าหรือร้านค้าต่างๆนั้นก็มีแนวคิดเช่นกันเพราะไม่อยากให้กระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมากเกินไปแต่ก็จะต้องมีการรักษาความสะอาดเว้นระยะห่างให้มากเพื่อป้องกันตนเองและป้องกันการแพร่เชื้อโควิด19 ซึ่งหากคณะกรรมการโรคติดต่อฯได้พิจารณาแล้วก็อาจจะทำได้เพราะกลุ่มเสี่ยงได้มีการควบคุมอย่างดีโดยเฉพาะการเดินทางกลับเข้ามาประเทศ
ทั้งนี้เมื่อเห็นตัวเลขของการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด19 แล้วต้องบอกว่าจังหวัดเชียงรายได้ควบคุมไว้ดีตั้งแต่ต้นพี่น้องชาวเชียงรายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการช่วยกันสกัดและหยุดเชื้อโควิด19 ซึ่งกระบวนการทำงานทุกฝ่ายทำงานอย่างดีประชาชนตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตระหนกมากเกินไปมาถึงวันนี้จังหวัดเชียงรายไม่พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อมาแล้วเป็นวันที่ 16 ติดต่อกัน.
/////