ข่าว

วัดเจดีย์หลวงเร่งค้ำยันเสาวิหารถูกปลวกมอดกัดกินป้องกันอันตราย

แชร์ข่าว

วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ วัดเจดีย์หลวง  ต.เวียงเชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ช่างรับเหมาก่อสร้างได้นำวัสดุอุปกรณ์และแรงงานเข้าไปค้ำยันบริเวณเสาภายในวิหารของหลังจากที่เสาวิหาร ซึ่งเป็นไม้เกิดแตกและผุกร่อนหลายต้นจากการถูกปลอกและมอดเจาะกินเนื้อไม้ด้านใน โดยความเสียหายกระจายเกิดขึ้นบนเสาเกือบทุกต้นประมาณ 52 ต้นและเสียหายหนักประมาณ 2-4 ต้นจนทำให้โครงหลังคาด้านหนึ่งยุบตัวลงมาเล็กน้อย ซึ่งการดำเนินการโดยการค้ำยันด้วยเหล็กหนา ตั้งแต่ส่วนฐานไปจนถึงส่วนบน เชื่อมต่อด้วยแผ่นโลหะเป็นช่วงๆ ประมาณ 4-5 ช่วงเพื่อให้เสามีความมั่นคงแข็งแรงไม่ยุบตัวลงมาอีก

โดยขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปจำนวน 3 ต้น และยังมีการสำรวจคาดว่าจะจัดทำอีกอย่างน้อย 4 ต้น ซึ่งสภาพของเสาวิหารจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีความเสียหายอย่างมาก บางต้นมีเห็ดออกมาจากกลางเสา บางต้นยังมีรังปลวกอยู่ด้านในที่โคนเสา

ทั้งนี้ ทางวัดเจดีย์หลวง แจ้งว่า หากดำเนินการเสร็จสินลงแล้ว ในการป้องกันความปลอดภัย ทางวัดก็จะเปิดให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่เคารพสักการะพระประธานในวัดซึ่งเป็นพระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์หนึ่งที่อยู่คู่กับเจดียห์หลวงที่อยู่เบื้องหลังวิหาร สร้างมาได้นานกว่า 676 ปีโดยพญาแสนภูพระราชนัดดาของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ได้ตามปกติ แต่มีการเตือนไม่ให้เข้าไปภายในหากเกิดฝนตกและมีพายุลมพัดแรงเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายได้

พระครูวิจารณ์ธรรมสุนทร เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง ให้สัมภาษณ์ว่า หลังการก่อสร้างอุโบสถวัดเจดีย์หลวงระหว่างปี 2557-2559 แล้วเสร็จแล้วก็พบว่าความเสียหายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ส่งมอบงาน ทำให้วันที่ 2 พ.ค.2562 ทางวัดได้รายงานสภาพปัญหาต่อกรมศิลปากรผ่านทางสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ แต่ก็ไม่มีการซ่อมแซมใดๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมาก่อนจะทำพิธีในวิหารปรากฎว่าเกิดเสียงลั่นด้านบนดังสนั่นและส่วนหลังคาก็ยุบลง ประกอบกับเสามีความเสียหายโดยเฉพาะมีเสียหายหนักจำนวน 4 ต้นและต้นอื่นๆ มีสภาพแตกและมอดเจาะโดยทั่วไปทำให้ทางวัดนำป้ายและเชือกไปขึงเตือนเป็นเขตอันตราย แต่พบว่าประชาชนที่เดินทางมาทำบุญ ประสงค์จะเข้าไปกราบไหว้พระประธาน เพื่อเป็นสิริมงคลซักครั้งหนึ่ง ทางวัดจึงได้นำป้ายและเชือกออกแล้วโดยใช้การค้ำยันด้วยโลหะดังกล่าวแทนเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันทางผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้เข้าไปตรวจสอบเพื่อจะช่วยแก้ไขแล้ว

ทั้งนี้ หลังจากการทำโครงสร้างโลหะเพื่อค้ำยันเสาไม้ของวิหาร ดังกล่าวดำเนินการโดยทางวัดและชาวบ้าน โดยมีช่างรับเหมาก่อสร้างรายหนึ่งที่มีจิตศรัทธาได้ช่วยนำคนงานและวัสดุอุปกรณ์เข้าไปดำเนินการให้ ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นคาดว่าจะมากถึงหลายหมื่นบาทแล้วและก็คาดว่าเขาคงจะไม่คิดค่าแรงโดยมีเพียงค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เท่านั้นซึ่งงบประมาณที่ต้องนำมาจ่ายก็คงมาจากการจัดหาของคณะกรรมการวัด ที่จะต้องระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธาต่อไป เนื่องจากทางสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ แจ้งว่าได้นำเสนอเรื่องนี้ให้ทางกรมศิลปากรได้เร่งรัดอนุมัติงบประมาณมาดำเนินการให้แล้ว ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างรอผลการนำเสนออยู่ แต่ทางวัดเห็นว่าระหว่างที่รอการช่วยเหลือนี้ก็ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยไว้ก่อน

“ความปลอดภัยนั้นมีทั้งต่อคนที่จะเข้าไปภายในและต่อพระพุทธรูปที่อยู่ภายในทั้งพระพุทธรูปเก่าแก่อื่นๆ ที่อยู่ภายใน และพระเชียงแสนสิงห์หนึ่งที่เป็นพระประธาน เพราะไม่สามารถย้ายออกมาได้เนื่องจากสร้างจากการก่ออิฐถือปูนที่ติดแน่น หากเกิดการยุบตัวลงมาของวิหารก็จะทำให้เกิดความเสียหายอันประเมินค่าไม่ได้เพราะเป็นพระพุทธรูปที่สร้างมาคู่กับวัดและเจดีย์หลวงตั้งแต่อดีตนั่นเอง และว่าคงต้องขอให้ทางช่างได้ซ่อมแซมค้ำยันเสาไปเรื่อยๆ ปัจจุบันดำเนินการมาแล้ว 4-5 วันคาดว่าจะค้ำยันต่อไปอีก 4-5 ต้นเพื่อให้เกิดความแข็งแรงไม่ก่อให้เกิดอันตรายไปจนกว่าทางกรมศิลปากรได้เข้ามาช่วยเหลือต่อไป” พระครูวิจารณ์ธรรมสุนทร เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง กล่าว

จากข้อมูล สำหรับวัดเจดีย์หลวง เคยเสียหายหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2554 วัดความแรงตามมาตราวัดริกเตอร์ได้ 6.7 มีศูนย์กลางอยู่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2557 วัดความแรงได้ 6.3 มีศูนย์กลางอยู่ที่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะในปี 2554 ทำให้ส่วนยอดของพระธาตุพังตกลงมา นอกจากนี้เมื่อเดือน ธ.ค.2562 ที่ผ่านมาเกิดพายุพัดกระหน่ำ อ.เชียงแสน ทำให้ต้นไม้ล้มระเนระนาด กระทั่งนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาเปิดเผยขอให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณของกรมศิลปากรดังกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมานายไกรสิน อุ่นใจจินต์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 กรมศิลปากร ได้ไปตรวจสอบพื้นที่และระบุว่าเป็นงบประมาณอุดหนุนที่มอบให้วัดดำเนินการโดยมีการตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุต่างๆ เรียบร้อย ส่วนไม้ใช้ไม้เต็งรังที่เป็นไม้เนื้อแข็งแต่เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นก็จะได้ทำแบบแปลนใหม่เสนอให้อธิบดีกรมศิลปากรอนุมัติซ่อมแซมแล้ว..

Kao Krai News

Recent Posts