เชียงราย เสนอเปิด‘จุดผ่อนปรน’เพิ่ม แก้ปัญหาการค้าชะงัก

แชร์ข่าว

‘เชียงราย’ประสานลาว เสนอเปิด‘จุดผ่อนปรน’เพิ่ม แก้ปัญหาการค้าชะงัก

17 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มีหนังสือแจ้งไปถึง ดร.บันคง นามะวง เจ้าแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตั้งอยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำโขงกับ จ.เชียงราย ว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ของทั้ง 2 ประเทศที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ จ.เชียงราย พร้อมที่จะเปิดท่าเรือที่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศเคยใช้ติดต่อกัน คือ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแจมป๋อง หมู่ 5 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น และท่าเรือผาถ่าน หมู่ 2 ต.เวียง อ.เชียงของ โดยจะผ่อนผันให้ใช้พาหนะเรือยนต์ขนาดเล็กขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันไปมาได้ โดยอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ทาง จ.เชียงราย ให้เหตุผลว่าการเปิดจุดเชื่อมโยงระหว่างกันเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องความต้องการสินค้า โดยเฉพาะเพื่ออุปโภคบริโภคและสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของทั้ง 2 ประเทศ

ขณะที่ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ประเทศไทย และ สปป.ลาว ได้ปิดพรมแดนระหว่างกันเพื่อป้องกันการระบาดของโรค โดยระงับการเข้าออกทั้งบุคคล ยานพาหนะและสิ่งของ ณ จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรน และช่องทางอื่นๆตลอดแนว ยกเว้นจุดผ่านแดนถาวรตรงสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ระหว่างบ้านดอนมหาวัน ต.เวียง อ.เชียงของ และเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว เพียงจุดเดียว แต่ผ่อนผันให้เข้าและออกเฉพาะสินค้าเท่านั้น

ล่าสุดทาง ดร.บันคง นามมะวง เจ้าแขวงบ่อแก้ว ได้มีหนังสือแจ้งถึง ผวจ.เชียงราย ว่า ทางแขวงบ่อแก้วจะนำเสนอขอพิจารณาไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และคณะเฉพาะกิจป้องกัน ควบคุมและแก้ไขโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้อนุญาตเปิดด่านดังกล่าวตามข้อเสนอของ จ.เชียงราย จากนั้นจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปิดการเข้าออกด่านชั่วคราวด้วยความจำเป็น และต่างเห็นความจำเป็นในการเปิดด่านชายแดน ทั้งด่านประเพณีและด่านท้องถิ่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายสามารถไปมาหาสู่และแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้ตามปกติ

รายงานข่าวจากด่านศุลกากรเชียงของ แจ้งว่า ในช่วงที่ไทย-สปป.ลาว มีการปิดพรมแดนและเหลือจุดเพื่อขนส่งสินค้าเพียงจุดเดียวนั้น พบว่า ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ยังมีสถิติการนำเข้าสินค้าเป็นประเภทดอกไม้ไม้ประดับกว่า 530,302 กิโลกรัม เครื่องจักรกล ใบชา ชาผง ผ้าถัด ผ้าทอ เมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กระเทียมอบแห้ง ฯลฯ ส่วนการส่งออกพบว่ามีสินค้าประเภทสุกร ดอกกล้วยไม้ ปุ๋ยเคมี น้ำมันเบนซิน เม็ดพลาสติกและอื่นๆ แต่มีปริมาณและมูลค่าที่น้อยชนิดละประมาณ 7-9 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งสภาพเช่นนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับการค้าและการติดต่อด้าน อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน ที่มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรอำเภอละ 1 จุด เพื่อการขนส่งสินค้าเท่านั้นโดยยังไม่มีการเปิดพรมแดนให้คนข้ามไปมาแต่อย่างใด

นอกจากนี้พบว่า นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางศึกษาดูงานเรื่อง “การเตรียมความพร้อมการเปิดด่านชายแดนภาคเหนือ” ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย โดยมี ผวจ.เชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ฝ่ายปกครอง และด่านศุลกากรสาธารณสุข ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เข้าร่วม เพื่อรับทราบข้อมูลสถานการณ์ในพื้นที่สำหรับนำเสนอต่อรัฐบาลพิจารณาดำเนินการ

สนับสนุนข่าวโดย

ข่าวอื่นๆ