ข่าว

ทูตสหภาพยุโรปพบผู้แสดงความรู้สึกห่วงปัญหาอุทกภัยฝนตกน้ำท่วม

แชร์ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ในโอกาสเยือนจังหวัดเชียงราย

วันที่ 18 สิงหาคม 2563 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้การต้อนรับ นายเปียร์ก้า ตาปิโอลา เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ในโอกาสเยือนจังหวัดเชียงราย และเยี่ยมคำนับผู้บริหารราชการแผ่นดินของจังหวัดเชียงราย  ที่ห้องรับรอง สำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ถนนแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย 

โดย นายเปียร์ก้า ตาปิโอลา เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย  มีความสนใจแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของจังหวัดเชียงราย ภายหลังสถานการณ์การแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ covid-19 ตลอดทั้งการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปในระดับภูมิภาค 

การสนทนาท่านเอกอัครราชทูต นายเปียร์ก้า ตาปิโอลา  ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ฝนตกและเกิดอุทกภัย การได้มาจังหวัดเชียงรายจึงได้ท่องเที่ยวสถานที่สวยงามและมีคุณค่าทางศิลปะ พร้อมทั้งได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาทางสาธารณสุข ข้อเสนอการให้ความช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาโควิด 2019 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้กล่าวถึงหลักการและปฏิบัติการกักตัวเมื่อเผชิญสถานการณ์โควิดของจังหวัดเชียงรายตามแนวทางของรัฐบาลที่ได้ผลดี และประชาชนพึงพอใจเต็มใจให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการป้องกันตัวเอง แม้จะเกิดการว่างงานและไร้การจ้างงานชั่วคราว แต่ได้พยายามบริหารจัดการให้กลับสู่สภาวะปกติด้วยกลไกต่าง ๆ ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ และยังใช้กลยุทธ์ในการตรวจคัดกรองที่เข้มข้น การใช้แอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” อย่างจริงจังและได้ผลดี ส่งผลให้มีการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวอย่างหลากหลายเพิ่มมากขึ้น

EU มุ่งสู่การแก้ปัญหาให้มีผู้ป่วยเป็นศูนย์ด้วยวัคซีน และเห็นว่าจังหวัดเชียงรายประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นเมืองแห่งศิลปะและการกีฬา มีศิลปินหลากหลายสาขา มีผลงานการพัฒนาในระดับชั้นนำของประเทศ ซึ่ง EU ให้ความสำคัญและยินดีที่จะมีส่วนร่วมมืออย่างใกล้ชิดและยั่งยืนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับ EU เนื่องจากเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 1 และเป็นตลาดขนาดใหญ่ของโลก ด้วยจำนวนประชากรประมาณ 500 ล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปีละประมาณ 17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12 ล้านล้านยูโร ในปี 2554 และเป็นภูมิภาคที่มีอำนาจซื้อสูงที่สุดในโลก EU จึงเป็นยักษ์ใหญ่ในเวทีการค้าโลกที่มีอำนาจต่อรองสูงและมีบทบาทในการกำหนดทิศทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นผู้นำด้านกฎระเบียบและนโยบายด้านการค้าและที่มิใช่การค้าที่สำคัญของโลก

EU ให้ความสำคัญต่อไทยในฐานะหุ้นส่วนสำคัญของ EU ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในมิติการเมืองและความมั่นคง โดยประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งในกรอบอื่น ๆ เช่น อาเซียน-สหภาพยุโรป (ASEAN-EU) และในกรอบ ARF (ASEAN Regional Forum) และต้องการความร่วมมือจากไทยในประเด็นภูมิภาคที่ EU ให้ความสำคัญโดยเฉพาะเมียนมาร์ การพัฒนาประชาธิปไตยและการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้ง ให้ไทยสนับสนุนบทบาทของ EU ในภูมิภาค เช่น ในกรอบ ASEAN / EAS รวมทั้งความร่วมมือแบบไตรภาคี

ยุทธศาสตร์ไทยต่อ EU คือ การเน้นจุดร่วมว่า ทั้งไทยและอียูต่างยึดมั่นในคุณค่าประชาธิปไตย ระบบการค้าเสรี และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน และทำให้ EU มีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพและความต่อเนื่องของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทย ตลอดจนทำให้ EU มองไทยเป็นหุ้นส่วนหลักในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยในการขยายการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก EU และการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในระยะยาวอีกด้วย

โดยการมาเยือนจังหวัดเชียงรายของ

นายเปียร์ก้า ตาปิโอลา เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ในครั้นี้ จึงเป็นผลดีต่อจังหวัดเชียงราย ในการสร้างความเข้าใจอันดี ความร่วมมือ และความปรารถนาดี ที่จะก่อให้เกิดมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูง อีกทั้ง ยังเป็นการเติมเต็มให้จังหวัดเชียงรายเป็นคู่ค้าที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจคู่กับสหภาพยุโรป รวมทั้ง เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะพื้นที่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่อยู่ในความสนใจของสหภาพยุโรป ที่จะต่อยอดไปสู่การเชื่อมโยงวงแหวนถนนสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 OBOR ทั้งในด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ ที่เชื่อมโยงเอเชียกับยุโรปและแอฟริกากว่า 60 ประเทศให้เข้าถึงกันในอนาคต…

ร่วมสนับสนุนข่าวโดย

Kao Krai News

Recent Posts