คนไทยขอกลับประเทศ4ราย

แชร์ข่าว

คนไทยขอกลับประเทศ4ราย ขณะที่ท่าขี้เหล็ก พบผู้ป่วย โควิด19 จำนวน 2 ราย

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประจำอยู่ที่ด่านพรมแดนตรงจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา  มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในฝั่งเมียนมาได้แจ้งขอเดินทางกลับประเทศ จำนวน 4 คน  โดยเป็นแม่ชี จำนวน 2 คนและเด็กจำนวน 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการคัดกรองเบื้องต้น พร้อมส่งตัวในการควบคุมโรคตามคขั้นตอน Local Quarantine (สถานที่สำหรับเฝ้าสังเกตอาการผู้ที่กักตัวหลังกลับจากการเดินทางต่างประเทศเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน)  

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ ศูนย์กักดูอาการในท่าขี้เหล็ก จังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 ราย โดยมีอายุ 30ปี และ 25 ปี  เป็นผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ของจังหวัดท่าขี้เหล็ก 

ซึ่งผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ที่ประจำอยู่ที่ท่าเรือบ้านโป่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร มีประวัติเดินทางจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ไปทำการอบรมที่เมืองย่างกุ้ง และได้เดินทางกลับมาท่าขี้เหล็ก เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2563 จึงถูกนำไปกักดูอาการในศูนย์ฯ ปรากฎว่ามีอาการป่วยและตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19  นอกจากนี้เป็นที่น่าสนใจว่ารายนี้เป็นผู้ที่เคยมีประวัติติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาติดเชื้อเป็นรอบที่ 2 

Comfee AirFryer หม้อทอดไร้น้ำมัน 3.5 ลิตร รุ่น CAF-35LMB1 ลดราคา…

ผู้ติดเชื้อรายที่ 2 เป็นชาย ทำงานรับจ้างก่อสร้าง โดยเดินทางมาจากเมืองมัณฑะเลย์ และเนื่องจากทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก อยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงถนนจึงมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานจากหลายพื้นที่ แต่ก่อนที่จะให้ทำงานได้มีการกักตัวในศูนย์ฯ ด้วยเช่นกัน และปรากฎว่าเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าทำการกักตัวตามขั้นตอนได้ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

ล่าสุดทั้ง 2 คน ได้ถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท่าขี้เหล็ก โดยไม่ต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเมืองเชียงตุง ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 168 กิโลเมตร เหมือนรายที่ผ่านๆ มา เนื่องจากในปัจจุบันทางการเมียนมาได้มีการปรับปรุงและพัฒนาโรงพยาบาลให้สามารถรองรับการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

/////

ข่าวอื่นๆ