ไทย-เมียนมา ช่วยกันป้องกันโควิด19

แชร์ข่าว

กองทัพภาค 3 จับมือเมียนมา ป้องกันโควิด-19 ส่งกลับอีก 11 คนไทย

วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอแม่สาย น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ประธานหอการค้าอำเภอแม่สาย และคณะได้เดินทางเข้าสัมพันธไมตรีกับหน่วยงานทางการท้องถิ่นเมียน มา โดยมี พ.อ.ต่อ สิ่น อู ผู้บังคับการยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก เนื่องในโอกาสสิ้นปีใหม่ และเชื่อมความร่วมมือในการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโตชควิด 19 โดยทางฝ่ายไทยได้มอบกระเช้าปีใหม่และอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรค โควิด19 ให้ทางฝ่ายเมียนมานำไปใช้ปฎิบัติหน้าที่ด้วย โดยเฉพาะการติดตามกลุ่มคนไทยที่ตกค้างใน จ.ท่าขี้เหล้ก กลับประเทศ

ซึ่งในวันนี้ทางการท้องถิ่นเมียนมา ได้ติดตามคนไทยส่งกลับประเทศเพิ่มเติมอีก 11 คน เป็นหญิง 7 คน ชาย 3 คน และพระภิกษุสงฆ์อีก 1 รูป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่ข้ามไปทำงานตามสถานบันเทิงต่างก่อนช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 โดยนำทั้งหมดเดินทางข้ามสะพานมาส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)เชียงราย นำตัวมาสอบสวนโรคและตรวจคัดหกรองหาเชื้อโควิด 19 และนำตัวไปกักเพื่อดูอาการเป็นเวลา 14 วันในสถานที่กักกันของรัฐหรือLocai Quarantine ต่อไป

โดยพล.ตรี.ถนัดพล กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เป็นการมาตรวจความพร้อมและให้กำลังใจการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเนื่องในวันสิ้นปี ซึ่งแม้จะเป็นวันหยุดแต่ยังต้องปฎิบัติงานอย่างเข้มแข็ง จึงถือโอกาสเชื่อมความสัมพันธ์กับทางการท้องถิ่นเมียนมาเพื่อร่วมมือกันในการติดตามตัวคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศ และไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองหรือสิ่งผิดกฎหมายอื่นด้วย ซึ่งพบว่าปัจจุบันทางการเมียนมาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะที่ระบบป้องกันตามแนวชายแดนก็ดำเนินการตามมาตรฐานป้องกันโรคอย่างสมบูรณ์ 

อย่างไรก็ตามก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงคุมเข้มชายแดนอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด โดยเพิ่มกำลังเข้ามาเสริมอีก 2 กองร้อยในการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงและลาดตระเวนตามแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง.

ข่าวอื่นๆ