ข่าว

เชียงรายจัดแข่งขันยิงปืนระดมทุนแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน

แชร์ข่าว

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามยิงปืนค่ายเม็งรายมหาราช มณฑลทหารบกที่ 37 อ.เมือง จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ปลัดจังหวัดเชียงราย ในฐานะ คณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้จัดให้มีการแข่งขันกีฬายิงปืนสู้ไฟป่าขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการระดมทุนในการเข้าบริหารจัดการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของพื้นที่ จังหวัดเชียงรายประจำปี 2564 โดยกีฬาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือประเภทยิงปืนรณยุทธ ของนักกีฬามืออาชีพ และยิงปืนประเภทประชาชนทั่วไปซึ่งเป้นยการแข่งขันยิงเป้า โดยรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำเข้าสมทบเข้ากองทุนไฟป่าจังหวัดเชียงรายทั้งหมด

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันยิงปืนเป็น 1 ใน 3 ชนิดประเภทกีฬาที่ทางจังหวัดเชียงรายกำหนดจัดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดแข่งขันกอล์ฟไปแล้ว ได้ทุนมาประมาณ 1 ล้านบาท แต่การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าต้องมีงบประมาณจำนวนมาก โดยเฉพาะค่าอาหารและน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ใช้ในการลาดตระเวนกวดขันจับกุมผู้ลักลอบเผาป่า การเข้าไปดับไฟป่ารวมไปถึงการพื้นฟู ซึ่งการดำเนินการไม่สามารถใช้งบประมาณของรัฐได้ทั้งหมด จึงต้องมีการจัดหารายได้ตั้งเป็นกองทุนเพื่อบริหารจัดการปัญหาไฟป่าหมอกควันอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าให้การเผาป่าหรือจุดฮอตสปอตเป็นศูนย์

สำหรับจังหวัดเชียงรายพบว่าในห้วงระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน ของทุกปี จะประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นประจำทุกปี ซึ่งที่ผ่านมาต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหารมณฑลทหารบกที่ 37 ส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มจิตอาสาดับไฟป่า ซึ่งจำนวนกำลังเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานตามพื้นที่ต่างๆ ทั้ง 18 อำเภอนับหมื่นคน ซึ่งการออกปฎิบัติงานทุกวันตลอดระยะเวลา 4 เดือนและบางส่วนจำเป้นต้องจัดซื้ออุปกรณ์ในการดับไฟและอุปกรณ์ป้องกันไฟป่าหมอกควันให้กับกลุ่มจิตอาสา ซึ่งคิดเป็นเงินปีละหลายล้านบาทเลยทีเดียว หากกำลังพลหรืออุปกรณ์ไม่เพียงพอการดับไฟบางครั้งไม่สามารถทำได้และเสี่ยงต่อชีวิตของผู้ปฎิบัติงานโดยปีที่ผ่านมีอาสาดับไฟป่าเสียชีวิตไปถึง 2 คนด้วยกัน.

Kao Krai News

Recent Posts