คณะสงฆ์ยกพื้นที่พระธาตุวังซางเป็นที่เรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา

เมื่อวันที่12เมษายน2561 พระธรรมราชานุวัตรและคณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายได้มีเมตตาจัดทำบันทึกข้อตกลงกับ เทศบาลนครเชียงราย โดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เพื่อมอบพื้นที่พุทธสถานพระธาตุวังซางและถ้ำตุ๊ปู่ พัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางทางพระพุทธศาสนา และพื้นที่สีเขียวปอดแห่งใหม่ของชาวเชียงราย 

พระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 6 เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว ได้กล่าวสัมโมนียกถาในตอนหนึ่งว่า “ในขณะที่ยังเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงรายในปี 2525  พระอธิการสมบัติ เจ้าอาวาสวัดน้ำลัดได้ถวายพื้นพระพุทธสถานพระธาตุวังซางที่ถูกบุกรุกแพ้วถาง   จึงได้อุปถัมภ์พัฒนาพื้นที่พระธาตุวังซางมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2527 ต่อมาภายหลังเทศบาลนครเชียงราย โดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้มาปรึกษาจัดทำโครงการ ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และต้นศรีมหาโพธิ์ ประเทศศรีลังกา มาบรรจุไว้ที่พระธาตุ โดยได้บูรณะ พระธาตุวังซาง และปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ไปแล้วนั้น  ซึ่งต่อไปจะได้มอบพื้นที่จำนวน 58 ไร่ให้เทศบาลเข้ามาพัฒนาแล้ว จึงขอประธานพรให้เทศบาลนครเชียงรายที่จะพัฒนาพื้นที่พุทธสถานพระธาตุวังซาง ให้สัมฤทธิ์ผลให้งานต่างๆนี้ได้เป็นไปด้วยด้วยดีอย่าได้มีอุปสรรคใดๆทั้งสิ้น”

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า ในอนาคตต่อไปเทศบาลนครเชียงรายจะได้เขามาพัฒนาพื้นที่พระธาตุวังซาง ให้เป็นสถานที่แหล่งเรียนรู้ทางพุทธศาสนา เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี โดยการปลูกต้นไม้ สวนสมุนไพร เพื่อเป็นปอดอีกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงรายให้พี่น้องประชาชนได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในการเป็นแหล่งเรียนรู้และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจต่อไป และต้องกราบขอบพระคุณพระธรรมราชานุวัตรและคณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายที่ได้มอบพื้นที่พระธาตุวังซางเปรียบเสมือนเป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลประเวณีปี๋ใหม่เมือง จ.ศ.1380 ให้กับชาวเชียงราย

สำหรับวัดพระธาตุวังซางเดิมเป็นพื้นที่ป่ารกร้างว่างเปล่า  ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ได้มีคนไปแผ้วถางพื้นที่บริเวณพระธาตุ พระอธิการสมบัติ เจ้าอาวาสวัดน้ำลัดได้ไปพบเห็นกองอิฐกระจัดกระจายอยู่ จึงระดมศรัทธาชาวบ้านไปสร้างพระธาตุเล็ก ๆ ในปี พ.ศ. 2527 พระอธิการสมบัติ ได้นิมนต์รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งพระราชาคณะที่พระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 6) ไปยกยอดจากนั้นได้มอบที่ดินบริเวณนั้นให้กับคณะสงฆ์ได้ดูแลพื้นที่มาตลอดโดยได้จัดกิจกรรมทางศาสนามาอย่างต่อเนื่องเนื่อง

พระธรรมราชานุวัตร และ นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ซึ่งได้มีส่วนในการดูแลรักษา ได้บูรณะพระธาตุ ได้มีแนวคิดพัฒนาให้เป็นพุทธอุทยาน เนื่องจากมีพระธาตุวังซางเป็นพระธาตุประจำมุมเมืองที่สำคัญของเมืองเชียงราย กล่าวคือ ด้านทิศเหนือมีพระธาตุวังซาง ด้านทิศใต้ มีพระธาตุดอยเขาควาย และทิศตะวันออกมีพระธาตุดอยสะเก็น ที่ขณะนี้เทศบาลนครเชียงรายได้ดำเนินการพัฒนาทุกแห่งให้เป็นพุทธสถานเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว เพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้รุ่งเรื่อง และเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประชาชนชาวเชียงรายอีกทางหนึ่ง////