เชียงรายพบป่วยโควิด19รายใหม่1ราย

จังหวัดเชียงราย พบผู้ป่วยโควิด19รายใหม่1รายกลับจากทำงานสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ส่วนการเข้ามาในจังหวัดเชียงราย จากพื้นที่สีแดง ไม่ต้องกักตัว เพียงแต่ต้องรายงานตัวกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนสถานบันเทิงเบิดได้ถึงเที่ยงคืน ขณะที่การเดินทางอื่น ร้านอาหาร เปิดตามปกติ

วันที่ 7 เมษายน 2564 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดเชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานติดตามการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จังหวัดเชียงราย นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงราย และ นายแพทย์ไชยเวช  ธนไพศาล  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  แถลงข่าว การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 รายใหม่  ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ซึ่งการแถลงข่าวมีขึ้นหลังการประชุมคณะกรรมการโรคิดต่อชุดใหญ่ เพื่อวางมาตรการต่าง ๆ  ในการป้องกันโควิด19ช่วงสงกรานต์ และ หลังพบผู้ป่วยรายใหม่

โดยผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 1 ราย เป็นหญิงอายุ 20 ปี ทำงานอยู่ที่สถานบันเทิงคริสัล ทองหล่อ กรุงเทพมหานคร และเดินทางกลับ จังหวัดเชียงราย  ด้วยสายการบินเวียตเจต เที่ยวบินที่ 134  ที่นั่ง 25 ซี  เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 2 เมษายน 2564 และถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เวลา 20.00 น. ล้วเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปบ้านที่ ต.เมืองชุม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย

ต่อมาวันที่ 3 เม.ย.ในภาคเช้าได้ไปสอบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ที่โรงเรียนเวียงชัยวิทยาคม และเวลา 17.00-19.00 น. ไปเที่ยววัดร่องขุ่น พร้อมครอบครัว รับประทานอาหารที่เอ็มเค และซื้อทองคำรูปพรรณ ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาเชียงราย และได้ทราบข่าวเพื่อนร่วมงานป่วยทางเฟสบุ๊ค แต่ในเวลา 08.00-14.00 น.วันที่ 4 เม.ย. ก็ยังไปสอบที่ กศน.ที่สถานที่เดิมต่อไป และเวลา 16.00-17.00น.ไปรับอาหารอาหารที่ร้านบีบีกุ้งเผา อ.เมือง จ.เชียงราย และช่วงเย็นถึงค่ำไปทำบุญที่ วัดร่องเสือเต้น อ.เมือง จ.เชียงราย และเริ่มมีอาการเป็นไข้ ทำให้ในวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ ได้พักอยู่ที่บ้านจนถึงเวลา 18.00 น.จึงเดินทางไปที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย แต่ไปไม่ทันเครื่อง (ตกเครื่อง) ทำให้เดินทางกลับบ้านด้วยรถ Grab car และวันถัดไปได้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ก็พบว่าติดเชื้อดังกล่าว ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ไม่พบผูติดเชื้อมานาน 75 วันแล้วและกรณีนี้ก็ถือว่าไม่ได้ติดเชื้อภายในจังหวัดแต่เป็นผู้ที่ทำงานที่กรุงเทพฯ และกลับมาพบว่าป่วยที่ จ.เชียงราย ซึ่งก็ไม่ถือว่าเกินความคาดหมายกระนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วจังหวัดได้วางมาตรการและจะมีคำสั่งและประกาศคณะกรรมการฯ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ส่วนกลาง ส่วนผู้ที่อยู่ตามเส้นทางที่ผู้ติดเชื้อไปเยือนหรือไทม์ไลน์และเกรงว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัยก็สามารถไปรับการตรวจหาเชื้อได้ฟรี ณ โรงพยาบาลใกล้บ้านได้ต่อไป  

 นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานติดตามการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จังหวัดเชียงราย  กล่าวว่า จังหวัดจะมีคำสั่งคณะกรรมการฯ ขอความ่ร่วมมือประชาชนที่จะเข้ามาในพื้นที่เชียงรายนับตั้งแต่นี้ให้ลงชื่อในแอพริเคชั่นไทยชนะ และเฝ้าะวังดูแลตัวเองตามมาตรการ ส่วนผู้ที่มาจากพื้นที่ 5 จังหวัดสีแดงให้แจ้งกำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เพื่อให้ทางอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้เข้าไปให้คำแนะนำและทำความเข้าใจเมื่ออยู่บ้าน และจะมีคำสั่งคณะกรรมการฯ กรณี จ.เชียงราย ถูกปรับเป็นพื้นที่สีเหลืองคือพบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย โดยปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.ส่วนกลางคือให้สถานบันเทิง ร้านจำหน่ายสุรา ฯลฯ ให้เปิดได้ไม่เกินเวลา 24.00 น.ส่วนร้านอาหาร ห้างร้านต่างๆ ยังคงเปิดได้ตามปกติ ส่วนการเดินทางไปมายังคงทำได้และกรณีเทศกาลสงกรานต์ก็จัดกิจกรรมได้ เช่น รดน้ำดำหัว  แต่อย่าสาดน้ำและหลีกเลี่ยงการจัดเลี้ยงโดยอยู่ในมาตรการป้องกันด้วย

นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นรายที่ 66 จากยอดสะสมมาทั้งหมด ของจังหวัดเชียงราย  เบื้องต้นทีมอบสวนได้ สอบสวนป้องกันโรคแล้ว  และหลังพบเชื้อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหากลุ่มเสี่ยงสูงที่ใกล้ชิดพบมีจำนวน 12 ราย ปัจจุบันได้ตรวจหาเชื้อไปแล้ว 4 รายพบว่าปลอดภัย และยังอยู่ระหว่างการตรวจอีก 8 ราย สวนผู้เสี่ยงต่ำมี 33 ราย ได้ใช้วิธีการดูอาการที่บ้านหรือ Home Quarentine 

นายแพทย์ไชยเวช  ธนไพศาล  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า ผู้ป่วย รายนี้มีไข้เมื่อไข้เมื่อ 2 วันก่อนตรวจพบว่ามีเชื้อ แต่ไม่มีอาการไอและไม่เจ็บคอรวมทั้งหายใจเองได้ แต่เมื่อเอ๊กซเรย์เหมือนจะมีอาการปอดอักเสบในช่วงแรก แพทย์จึงให้ยาต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้ป่วยตอบสนองได้เร็วมากโดยอีก 1 วันต่อมาไข้ก็ลดหมดและอาการดีขึ้นแพทย์จึงจะให้ยาต่อไปอีก 5 วัน และเอ๊กซเรย์ปอดดูทุกวัน คาดว่าไม่เกิน 10 วันอาการก็คงเป็นปกติและสามารถกลับบ้านได้ เหมือนรายก่อนหน้านี้ซึ่งก็จะต้องกลับไปดูอาการที่บ้านอีกระยะหนึ่งต่อไป

////