เลี้ยงผึ้งโพรงไทยOrganicสร้างรายได้เสริมช่วงโควิด19 หนึ่งปีเก็บน้ำผึ้งครั้งเดียว ปล่อยให้ผึ้งออกหากินตามธรรมชาติ ไม่ทำลายตัวอ่อน ผลผลิตที่ได้ ปีละประมาณ 4,000 กิโลกรัม รายได้ล้านกว่าบาท
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สู้ชีวิต มาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด19 ที่ นายอัศวิน เวชานนท์ รองประธานวิสาหกิจชุมชนผาหมื่น ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 48 บ้านป่าบงใต้หมู่ 12 ตำบลผางาม อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ที่ได้ทำการเกษตรแบบฟาร์มทำเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ครบวงจร ที่ได้ปลูกผักสวนครัว ปลูกผลไม้ ขายเพื่อเลี้ยงชีพ และครอบครัว แต่เมื่อรายได้ขึ้นลงตามฤดู และช่วงโควิด19 ผลผลิตผักขายออกสู่ตลาดไม่ค่อยดี ก็ได้การเลี้ยงผึ้งโพรงไทย ที่สามารถทำรายได้ดี
โดยการเลี้ยงผึ้งโพรงไทย ได้นำความชอบส่วนตัว ที่ชอบกินน้ำผึ้ง และหันมาเลี้ยงผึ้งโพรงไทย จนทำให้เกิดรายได้หลักมาจนถึงปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าจะเกิดวิกฤตโควิด19อย่างไร น้ำผึ้งก็ยังส่งขายได้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปีหนึ่งจะได้น้ำผึ้งประมาณ 4,000กิโลกรัม ขายในกิโลกรัมละ 300 บาท เมื่อเก็บผลิตจะมีรายได้ปีละประมาณ 1,200,000บาท
ทุกวันนี้ นายอัศวิน เวชานนท์ จะไปตรวจดูการทำรังของผึ้งโพรงไทย ภายในสวนยางพาราของตนเอง และสวนยางพาราของสมาชิกกลุ่มที่นำลังไม้ให้ผึ้งมาทำรัง ว่ารังไหนเริ่มทำรังแล้วบ้าง เพื่อทำเครื่องหมายของรังนั้นเอาไว้ เพราะในสวนยางพาราของตนเองและสมาชิก ได้เลี้ยงผึ้งโพรงไทยเอาไว้จำนวน 500 รัง เพราะแต่ละรังจะทำรังไม่พร้อมกัน ส่วนรังไหนพร้อมที่จะเก็บน้ำผึ้ง และรวงผึ้ง ก็จะทำการเก็บทันที แต่จะไม่เก็บตัวอ่อนของผึ้ง โดยนำคืนเข้าไปที่เดิม เพื่อให้ผึ้งได้เกิดมาใหม่และออกหาน้ำผึ้งมาทำรังต่อไปในอนาคต
ต่อจากนั้นจะนำมาเข้าสู่กระบวนการเอาน้ำผึ้งออกจากรวง โดยนำรวงผึ้งห่อด้วยผ้าขาว และห่อด้วยถุงพสาติกใสอีกชั้น นำไปแขวนเอาไว้ เพื่อให้น้ำผึ้งหยดลงในถุง เมื่อได้เวลา 3 วัน ก็จะน้ำผึ้งเข้าไปสู้กระบวนการกรอง และบรรจุขวดตามขนาดที่จะขายต่อไป ซึ่งราคจะมีตั้งแต่ 35-350 บาท
นอกจากนี้รังที่มีรวงผึ้งที่มีเกรดดี หรือ เรียกว่าเกรดเอ ก็จะนำมาตัดแบ่งออกเป็นชิ้น เพื่อขายเพิ่มรายได้ขึ้นอีก ซึ่งจะมีทั้งบรรจุในขวดผสมกับน้ำผึ้ง และใส่ภาชนะขายเฉพาะรวงน้ำผึ้ง โดยได้มีการทำบรรจุภัณฑ์ที่ถนอมอาหารอย่างดี
นายอัศวิน เวชานนท์ รองประธานวิสาหกิจชุมชนผาหมื่น เล่าให้ฟังว่า ทั้งหมดเกิดจากความชอบส่วนตัว จึงได้ศึกษาเอง และ เข้าร่วมกับ ไร่เชิญตะวัน ของพระอาจารย์ ว.วชิระเมธี ที่ทำเกษตรแบบอินทรีย์ จึงได้แนวคิดใหม่ ในการทำ น้ำผึ้ง Organic เพราะปลอดจากสารพิษทุกอย่าง ที่สำคัญ ไม่มีการเก็บตัวอ่อนผึ้งมาขาย การเลี้ยงผึ้งโพรงไทยของผาหมื่น ทำควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ผึ้งโพรงไทยน้ำผึ้งที่ได้ทุกหยดมาจากธรรมชาติ
จุดเด่นของน้ำผึ้งผาหมื่น คือไม่มีสารตกค้างใดๆในตัวน้ำผึ้ง สะอาดปลอดภัยและใช้บรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน น้ำผึ้งของเราไม่ผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม จึงทำให้คุณค่าและประโยชน์ในตัวน้ำผึ้งอยู่ครบ เราใช้แหล่งอาหารของผึ้งเป็นดอกไม้ป่านานาชนิด จึงไม่มีเคมีตกค้างในด้านการเกษตร ผึ้งต้องอยู่ในลังไม้จนครบ 80 วัน ถึงเราจะเก็บน้ำผึ้งการบ่มน้ำผึ้ง ที่ครบอายุ จะช่วยให้ประโยชน์ในตัวน้ำผึ้ง มีคุณสมบัติการเป็นสมุนไพร ได้ดีขึ้น 1 ปีเราจะเก็บน้ำผึ้ง เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ประการสำคัญ การเก็บน้ำผึ้งของผาหมื่นจะไม่ใช้ควันในการรมตัวผึ้ง และเก็บน้ำผึ้งแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีการเก็บตัวอ่อนมาขาย น้ำผึ้งที่ได้ทุกหยดได้จากน้ำหวานของดอกไม้ธรรมชาติล้วนๆ กระบวนการผลิตและแปรรูปน้ำผึ้งทำในห้องที่ได้มาตรฐานและใช้วัสดุที่อยู่ในมาตรฐาน
นายอัศวิน ยังบอกอีกว่า ทุกอย่างที่เกี่ยวกับรวงผึ้งที่เก็บมา ยังนำมาแปรรูปเป็นสบู่ ลิปปาล์มผลิตจากไขผึ้งและน้ำผึ้งแท้ ซึ่งอนาคตก็จะคิดค้นไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้หากมีใครสนใจอยากจะเลี้ยงผึ้งโพรงไทย สามารถสอบถามรายละเอียดได้ ที่ 0935874685 หรือ เพจ pha muen น้ำผึ้งออร์แกนิค ซึ่งจากที่เป็นอาชีพเสริมจะกลายเป็นอาชีพหลักได้ ซึ่งก็จะมีรายได้ตลอดทั้งปี และทุกวันนี้มีคติเตือนใจเสมอในการเลี้ยงผึ้งโพรงไทย อย่าโลภ ซื่อสัตย์ มีเมตตา อยู่รอด อยู่ได้ อยู่ดี
อยู่รอด : ผึ้งสามารถอยู่ได้ไม่สูญพันธุ์จากเคมี
อยู่ได้ : เราต้องอยู่ได้ในแบบของเรา
อยู่ดี : ทั้งผึ้งทั้งเราสามารถอยู่ได้แบบเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
////
งานพ่อขุนเม็งรา…
วันที่ 18 ธันวา…
สถานคุ้มครองสวั…