มฟล. ขับเคลื่อนแนวคิด ปกป้องธรรมชาติด้วยวัฒนธรรม ในโครงการพัฒนาระบบนิเวศ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (EPISG) เขตวัฒนธรรมเมืองเก่าน่านและเชียงแสน
2 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ดำเนินกิจกรรมการปกป้องธรรมชาติอย่างยั่งยืนด้วยวัฒนธรรม โดยการต่อยอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สู่ผลิตภัณฑ์ชุมชนเมืองเก่าเชียงแสนและน่าน เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในโครงการพัฒนาระบบนิเวศ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (EPISG)
โครงการพัฒนาระบบนิเวศเพื่อการปกป้องแหล่งท่องเที่ยว และมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อความยั่งยืนตามเกณฑ์ Global Sustainable Tourism Council (GSTC) ดำเนินงานภายใต้งบประมาณแผ่นดินปี พ.ศ. 2564 ในส่วนบูรณาการการท่องเที่ยวพื้นที่เมืองเก่า 2 แห่ง ได้แก่ เมืองเชียงแสน จ.เชียงราย และเมืองเก่าน่าน จ.น่าน
เพื่อการปกป้องแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยจัดระบบความสัมพันธ์เชิงนิเวศระหว่างวัฒนธรรมกับธรรมชาติในรูปแบบมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ตามเกณฑ์ Intangible Cultural Heritage (ICH) ของ UNESCO เพื่อพัฒนาการผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับการปกป้องธรรมชาติ
กระบวนการทำงานของเรา เริ่มจากทีมนักวิชาการการเข้าไปเก็บข้อมูลมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ตามแนวทางของยูเนสโก 200 รายการ มรดกวัฒนธรรมเหล่านี้จะต้องเป็นภูมิปัญญาที่มีความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับวัฒนธรรม โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคัดสรรให้เหลือ 50 รายการ นำมาประชุมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยมีนักออกแบบมาร่วมกันเชื่อมโยงแนวคิดว่า จากความลับในมรดกภูมิปัญญาที่รักษาธรรมชาติให้ยั่งยืนนั้น สามารถเป็นผลิตภัณฑ์ใดเพื่อให้คนมีส่วนร่วมในการรักษาธรรมชาติได้บ้าง แล้วคัดเลือกให้เหลือ 20 รายการเพื่อนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ
โครงการนี้จะเชื่อมโยงระบบนิเวศของความรู้ไปสู่การปกป้องธรรมชาติอย่างยั่งยืน เมื่อคนใช้ผลิตภัณฑ์จะสามารถเชื่อมโยงไปได้ว่า ธรรมชาติยังดีอยู่และมีคนกำลังปกป้องธรรมชาติไว้ด้วยภูมิปัญญาของเจ้าของวัฒนธรรม การใช้หรือการอุดหนุนผลิตภัณฑ์จึงเท่ากับการช่วยรักษา
ผศ.ดร.พลวัฒ ประพัฒน์ทอง หัวหน้าโครงการฯ กล่าว ถึงที่มาและกระบวนการทำงานมรดกภูมิปัญญา เปรียบเสมือนอาวุธลับในการปกป้องธรรมชาติมาอย่างยาวนาน หน้าที่ของเรา คือ การนำภูมิปัญญาอันประกอบไปด้วย นิทาน ตำนาน วิถีชีวิต ความเชื่อ ของ 2 เมืองเก่า น่าน และ เชียงแสน มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ (ประเภทสินค้าและบริการ) ต้นแบบ นอกจากจะต้องมีดีไซน์ ร่วมสมัยแล้ว ยังสามารถเชื่อมโยงได้ว่า ธรรมชาติยังดีอยู่และมีคนกำลังปกป้องธรรมชาติด้วยภูมิปัญญาของเจ้าของวัฒนธรรม โดยที่ผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ก็เท่ากับว่ามีส่วนร่วมในการรักษาธรรมชาติและภูมิปัญญาไปพร้อมกัน
ในส่วนของการดำเนินงานนั้น นักวิจัยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูล จัดอบรม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับชุมชนต่างๆ ในเมืองเก่าเชียงแสน และน่าน โดยผลงานที่ได้รับการคัดเลือกอยู่ระหว่างจัดทำผลิตภัณฑ์ต้นแบบ และขั้นตอนการจดลิขสิทธิ์ทางปัญญา
ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทสินค้า ได้แก่ ผ้าไหมลวดลายใหม่จากชุมชนบ้านสันธาตุเชียงแสนที่สื่อถึงความงดงามของแม่น้ำกกในแต่ละช่วงเวลา ผ้าพิมพ์ลายใบสักจากวัดป่าสัก วัดสำคัญของเมืองเก่าเชียงแสน ผ้าทอลายผลึกเกลือ เครื่องสำอางจากไกของดีเมืองน่าน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ด้านบริการ ได้แก่ การแสดงร่วมสมัยสำหรับทั้ง 2 เมืองที่ได้กูรูทางดนตรี อาจารย์ บรูซ แกสตัน ให้เกียรติประพันธ์ดนตรี เป็นต้น
ทั้งนี้ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ได้คัดเลือกทั้ง 20 รายการ ทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจะประกาศให้ทราบ ในลำดับต่อไป หลังจากมีการจดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน
ผู้สนใจสามารถติดตามชมผลงานออกแบบผลิตภัณฑ์ต้นแบบ แนวทางการทำงาน และทำความรู้จักกับภูมิปัญญาของในชุมชนเมืองเก่าเชียงแสน จ.เชียงราย เช่น ชุมชนบ้านสันธาตุแหล่งผลิตผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดในเชียงราย ชุมชนบ้านห้วยกว๊านกับผ้าปักของชนเผ่าเมี่ยน (เย้า) เจ้าของตำนานลายผ้าสุนัขมังกร คติความเชื่อของคนน่านที่เชื่อมโยงระหว่าง นาค น้ำ (คน)น่าน รวมไปถึงเรื่องของผลึกเกลือใครจะเชื่อว่าเมื่อนำรูปทรงมาดีไซน์เป็นลายผ้าแล้วจะน่าตื่นเต้นเพียงใด
ติดดตามชมกัน ได้ทาง เพจเฟซบุ๊ค ‘เชื่อม รัด มัด ร้อย’ www.facebook.com/EPISG.MFU