ป่าหินปล่องช่องส่องแสง และหน้าวานร ที่เขาน้ำพุ Unseen

แชร์ข่าว

เดินเขาน้ำพุ ป่าหินสลับป่าไผ่ ชมหินหน้าพญาวานร และช่องปล่องส่องแสง มีลักษณะหินแยกเป็น 2 ท่อน รอชมพระอาทิตย์ส่องแสง สวยงาม ตามธรรมชาติสร้างสรรค์ เป็นจุด Unseen  อีกแห่งหนึ่ง ของ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก

พิษณุโลก:ในช่วงนี้สถานที่ท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศ และสามารถท่องเที่ยวได้ตามมาตรการป้องกันโควิด คือ ฉีควัคซีนแล้ว 2 เข็ม ทำให้สถานท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวต่างเดินทางไปเที่ยวชมธรรมชาติกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง อาทิ ภูเขาหินปูน และธรรมชาติต่างๆ สวยงาม นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ผลงานที่น่าอัศจรรย์ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ชม

โดยในวันนี้กลุ่มท่องเที่ยวไทยไปชมภู นำโดยนายบุญสืบ เผือกอ่อน ประธานกลุ่มฯ ได้พาผู้สื่อข่าวไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใหม่อีกแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากชุมชนบ้านชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก นั่นคือ ภูเขาน้ำพุ เขตพื้นที่ป่าชุมชน ที่มีลักษณะเหมือนป่าไผ่ สลับกับหินปูนรูปทรงต่างๆ สวยงาม  บางจุดก็เป็นลักษณะกำแพงยาวขึ้นไปบนภูเขา  บางจุดก็มีหินรูปทรงเหมือนช่องประตูลมขนาดต่างๆ บางจุดก็มีลักษณะเป็นแท่งๆ บางจุดก็มีลักษณะหน้าพญาวานร ขนาดใหญ่ ที่หลายคนเห็นแล้วต้องถ่ายรูปไว้ 

นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวสำคัญที่น่าสนใจและตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวเป็๋นอย่างมาก นั่นคือ จุดชมผาปล่องช่องแสง ที่มีลักษณะเหมือนหินปูน ที่ถูกตัดแยกเป็น 2 ท่อน ซึ่งอาจเป็นการตัดจากน้ำที่ไหลเป็นเวลานานจากเกิดเป็นช่อง สูงกว่า 30 เมตร หากมีฝนตกลงมาก็จะเป็นน้ำตกที่สวยงาม  แต่ถ้าหากไม่มีน้ำก็จะเป็นช่องกว้างประมาณ 7 เมตร หากมีแสงจากพระอาทิตย์ส่องลงมา ก็จะเป็นลำแสง ที่สวยงามมากทีเดียว ซึ่งเป็นจุดอ Unseen อีกแห่งหนึ่งของ ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ที่ธรรมชาติสรรสร้างได้อย่างลงตัว

นายบุญสืบ เผือกอ่อน ประธานกลุ่มท่องเที่ยวไทยไปชมภู กล่าวว่า ภูเขาน้ำพุ เป็นเขตพื้นที่ป่าชุมชน ชาวบ้านสามารถใช้ประโยชน์จากการหาของป่าได้ โดยเฉพาะหน่อไม้  และที่แห่งนี้ มีลักษณะป่าไผ่ สลับกับป่าหินที่มีรูปทรงต่างๆ สวยงาม จนมาเมื่อเดือนที่ผ่านมาชาวบ้านที่หาของป่า ก็ได้เห็นหินคล้ายหน้าพญาวานร ก็โพสต์ลงโซเซียส ก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมกัน และล่าสุดตนและสมาชิกกลุ่ม ได้สำรวจพื้นที่เขาน้ำพุเพิ่มเติม ก็พบหินที่มีลักษณะแตกเป็น 2 ชิ้น เป็นช่อง ที่รับแสงจากพระอาทิตย์ โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00-12.00 น. อย่างสวยงาม บริเวณหินก็มีลักษณะเป็นหินดิน ลักษณะคลื่นสวยงาม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปถ่ายรูปกันได้เช่นกัน 

สำหรับการเดินทางการไม่ยาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที ระยะทางประมาณ 2 กม. เท่านั้น ก็สามารถเที่ยวชมป่าหินสลับป่าไผ่ และธรรมชาติที่สวยงาม ถูกสร้างสรรค์มาได้อย่างลงตัว โดยหากนักท่องเที่ยวสนใจก็สามารถติดต่อได้ที่ตนเองได้ เบอร์โทร 085-7374528

/////////

ผู้สื่อข่าว ธเนส อนุดิษฐ/พิษณุโลก

ข่าวอื่นๆ