ลิ้นจี่บินได้ส่งภูเก็ตเน้นความสดให้ถึงผู้บริโภคโดยการขนส่งใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง
วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 นาวาอากาศตรีสมชนกเทียมเทียบรัตน์ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา รวมทั้ง บริษัทยูนิเวอร์แซลแอร์คาร์โกโซลูชั่นจำกัด และกลุ่มเกษตรผู้ปลูกลิ้นจี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านผลิตลิ้นจี่จังหวัดพะเยา ร่วมกันแถลงข่าวโครงการลิ้นจี่บินได้ ที่ห้องตอบแทนคุณแผ่นดินท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย
นาวาอากาศตรีสมชนก กล่าวว่า โครงการลิ้นจี่บินได้เป็นการส่งมอบผลผลิตลิ้นจี่จากต้นทางจังหวัดเชียงรายไปยังจังหวัดภูเก็ตโดยลิ้นจี่ดังกล่าวมาจากแหล่งผลิตที่จังหวัดพะเยาซึ่งทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพะเยาได้ประชาสัมพันธ์เรื่องของผลผลิตลิ้นจี่ออกไปในทุกช่องทางเพื่อเป็นกระจายลิ้นจี่ช่วยเหลือเกษตรกรพร้อมกันนี้ยังได้เปิดรับออเดอร์เพื่อจัดสิ่งลิ้นจี่ไปยังผู้บริโภคปลายทางจึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้นมาซึ่งทางท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงได้สนับสนุนกิจกรรมนี้อย่างเต็มที่
ทางด้านนายศักดิ์ฤทธิ์ กล่าวว่า ทางสหกรณ์ในเครือข่ายได้มีการสั่งซื้อเพื่อช่วยกันกระจายลิ้นจี่ไปยังจังหวัดภูเก็ตซึ่งประกอบด้วยสหกรณ์การเกษตรเมืองภูเก็ตจำกัดสกหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธกส.ภูเก็ตจำกัดและสหกรณ์การเกษตรเมืองถลางแต่ด้วยระยะทางที่ไกลทุกฝ่ายจึงได้ร่วมกันจัดส่งทางคาร์โกเครื่องบินเพื่อรักษาความสดของลิ้นจี่ ซึ่งปริมาณที่จัดส่ง 2,310 กิโลกรัมโดยทางบริษัทยูนิเวอร์แซลแอร์คาร์โกโซลูชั่นจำกัดได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งจำนวน 1,000 กิโลกรัมสำหรับที่เกิน 1,310 กิโลกรัมคิดค่าจนส่งกิโลกรัมละ 12 บาทรวมเป็นเงินค่าขนส่งจำนวน 15,720 บาทโดยใช้เวลาการในขนส่งไปเพียง 2 ชั่วโมงเศษทำให้ผลผลิตถึงมือผู้บริโภคได้เร็ว
ทั้งนี้ลิ้นจี่ของจังหวัดพะเยาถือว่ามีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่นๆนั้นคือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI เป็นลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวย อ.แม่ใจ จ.พะเยา จุดเด่นของลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวย อ.แม่ใจ เป็นสินค้าเกษตรที่ผลผลิตหนึ่งปีมีเพียงเดือนเดียวหมดแล้วหมดเลยที่มีลักษณะผลใหญ่ทรงยาวรีเปลือกบางสีแดงอมชมพูหนามสั้นและห่างเนื้อผลแห้งกรอบสีขาวขุ่นไม่แฉะน้ำรสชาติหวานมีกลิ่นหอม ///