เพื่อไทยบุก “เชียงราย” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 7 เขต

แชร์ข่าว

เพื่อไทยบุก “เชียงราย” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร 7 เขต “แพทองธาร” ระบุหาก “ทักษิณ” ได้กลับประเทศไทย จะขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2565 ที่ศูนย์ประชุมท่องเที่ยวและกีฬา นครเชียงราย อ.เมือง จ. เชียงราย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อาทิ ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี หรือ ต้นน้ำ บุตรชายคนโต ของ นายวันชัย จงสุทธานามณี นางรัตนา จงสุทธานามณี และยังมี น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ พร้อมด้วยประชาชนที่สวมเสื้อสีแดง “ครอบครัวเพื่อไทย” จำนวนมาก จนล้นห้องประชุมท และให้การต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย

บนเวทีเริ่มจาก การปราศัยของ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย เรื่อง จบปัญหา ‘ยาเสพติด’ ต้องสร้างเศรษฐกิจที่ดี ต่อด้วย นายวิกรม เตชะธีรารัตน์ พูดถึงเรื่อง เชียงราย ความงามแห่งแผ่นดิน ‘ชาติพันธุ์’ นายอิทธิเดช แก้วหลวง อดีต สส.เชียงราย พูดเรื่อง เชียงราย แผ่นดินทอง ‘การค้าชายแดน’ ประตูสู่ตลาดโลก โดยช่วงท้ายเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดด่านการค้าชายแดน แม่สายได้แล้ว ต่อด้วย นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีต สส.เชียงราย พูดในเรื่อง เชียงราย ‘เที่ยว ทุกฤดู’ พร้อมสรรพสายมู-ศิลปะ- ประวัติศาสตร์

จากนั้น ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี พูดถึงเรื่อง ‘HUB ภาพยนตร์’ เมืองแฝด โอกาสใหญ่ของเชียงรายเชียงใหม่ ที่หากผลักดันแล้ว เชื่อว่าจะสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้ภาคเหนือ เพราะจะมีคนตามรอยภาพยนต์ หรือละครมาจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่นต่างประเทศ ที่ผ่านมาภาพยนตร์จากต่างประเทศถือว่ามีอิทธิพลต่อสังคมไทยเราอย่างมาก ต่อมาช่วง 10 ปีหลังมานี้ก็ปรากฎซีรีย์เกาหลีมากขึ้น ตนจึงมีแนวคิดว่าประเทศไทยเราก็สามารถทำได้และพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพ ตนจึงเสนอให้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐพิเศษภาพยนต์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เพราะมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีต้นทุนที่ดีอยู่แล้ว จึงพร้อมรับนักท่องเที่ยว กองถ่ายทำภาพยนตร์ รวมทั้งยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง แม้ไม่ง่ายในการพัฒนาเรื่องนี้แต่ก็ต้องเตรียมการ เพราะที่ผ่านมาการจะขออนุญาตถ่ายทำภาพยนต์ในบางพื้นที่ต้องขออนุญาตจากหลายหน่วยงาน หากเป็นเขตเศรษฐกิตจพิเศษดังกล่าวก็จะผลักดันให้การขออนุญาตทำได้จุดเดียวหรือวันสต็อปเซอร์วิส มีการยกเว้นภาษีสำหรับบริษัทภาพยนต์ที่ไปสร้างสำนักงานใหญ่ในพิ้นที่ซึ่งจะสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนไทยเราได้อีกด้วย

ต่อจากนั้นเป็นการโชว์ของดีของประจำเขตเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งไฮไลท์ อยู่ที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่นำใบกระท่อมการแดง ขึ้นมาโชว์พร้อมบอกว่าจะเป็นพืชเศษฐกิจใหม่ และตอนท้ายระบุว่า มีประชาชนฝากสิ่งนี้ขึ้นมา เมื่อล้วงเข้าไปในถึงพลาสติก และหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาก พร้อมบอกว่าสิ่งนี้แพงกว่า ข้าว จากนั้นได้นายพิเชษฐ์ ก็ได้บอกอีกว่า ชาวบ้านขอให้ทำพิธีขับไล่ประยุทธ์ อีกที ด้วยการโยนแกลบ ที่เปรียบเสมือนข่าว พร้อมกล่าวว่า ประยุทธ์ ออกไป จำนวน 3 ครั้ง

ทั้งนี้สำหรับเนื้อหาบนเวทีส่วนใหญ่ว่าที่ผู้สมัครมีการแถลงถึงแนวทางการพัฒนาของตัวเองและเรียกร้องให้ประชาชนกลับมาเลือกพรรคเพื่อไทยให้ครบทุกเขตเหมือนเดิมหรือแลนด์สไลด์ รวมทั้งโจมตีการปฏิวัติรัฐประหารปี 2557 ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อดีต ผบ.ทบ.และนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน และระบุว่ารัฐบาลทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น

จากนั้นนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีมือที่ 3 ของ จ.เชียงราย แต่จะมีมือที่ 1 คือ ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย เท่านั้น สำหรับครั้งนี้นอกจากเดินหน้าแบบคู่ขนานระหว่างพรรคและครอบครัวเพื่อไทย หากว่าไม่แลนด์สไลด์จะถูก พล.อ.ประยุทธ โลภเอาไปประชาชนจึงไม่ควรให้ถูกโลภไปอีกโดยให้ได้ ส.ส.จำนวน 250 คนขึ้นไป การจัดตั้งรัฐบาลก็ง่ายและ ส.ว.ก็ไม่กล้าคัดค้าน หรือถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลก็จะทำให้สภาผู้แทนราษฎรเปิดประชุมกันไม่ได้แล้วจะเกิดโกลาหลขึ้นแน่นอน

ต่อด้วย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบันพรรคการเมืองต่างๆ ลงพื้นที่พบประชาชนส่วนรัฐบาลจะแจกจะทำอย่างไรไม่มีใครสนใจ ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปลงพื้นที่ จ.หนองคาย ประกาศจะล้มเพื่อไทยแต่พวกเรากลัวว่า พล.อ.ประวิตร จะล้มเสียก่อนมากกว่า ขณะที่ประเทศเรากลับมาประสบปัญหายาเสพติดและยังมีความยากจน รัฐบาลชุดนี้เอาแต่คบกับรัฐบาลทหารเมียนมา สำหรับ จ.เชียงราย ถือว่ามีศักยภาพทุกอย่างดีหมดเสียเพียงมีนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ เท่านั้น ดังนั้นทางเดียวที่จะรอดคือต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

ปิดท้าย ที่ น.ส.แพทองธาร ได้ปราศรัยช่วงหนึ่ง ว่า พี่น้องชาวเชียงรายสบายดีหรือไม่ ไม่ค่อยสบายใช่หรือไม่ ทำมาหากินลำบาก หนี้สินท่วมท้นใช่หรือไม่ ไม่เป็นอะไร ขอให้พี่น้องอดทนอีกนิด ถ้าวันนี้ทุกข์ยาก พรุ่งนี้ต้องดีขึ้นแน่นอน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมาดูแลประชาชนอีกครั้ง รู้สึกเป็นเกียรติที่มาเยี่ยมชาวเชียงราย ชาวเชียงรายไม่เคยลืมพรรคเพื่อไทย เหมือนที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยลืมชาวเชียงราย

คุณพ่อกับคุณอาฝากความคิดถึงมาให้พี่น้อง เพิ่งกลับจากการไปเยี่ยมทั้ง 2 คน ดีใจที่ตนได้มาเชียงราย ทุกท่านทราบดีว่าคุณพ่อ และคุณอา เป็นคนเชียงใหม่ แต่คนในครอบครัวทั้งพี่เขย และพี่สะใภ้ เป็นคนเชียงรายแท้ๆ คุณพ่อตั้งใจว่าถ้าได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทย อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน มีอะไรร่วมมือกันไม่ขัดแย้งกัน เพราะพี่น้องกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ สิ่งที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นคือ ให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ให้พี่น้องพ้นจากความทุกข์ยาก

น.ส.แพทองธาร กล่าวขอบคุณ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าเป็นน้องรักคุณพ่อ เป็นหลักทางภาคเหนือ ทำให้เรามีที่พึ่งพิง และผู้แทนที่ก้าวข้ามผ่านความขุ่นเคืองในใจของตัวเอง เพื่อโฟกัสที่ประชาชนและประเทศชาติของเรา ต่อไปเชียงรายต้องรวมกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อเอานโยบายเพื่อไทยมาพัฒนาเชียงรายและให้คนไทยทุกคนหายจน ถ้าพี่น้องให้โอกาส เราจะกลับมาทำให้ชีวิตพี่น้องกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้งอีกกี่สิบครั้ง แต่พรรคเพื่อไทยพร้อมเสมอ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจะทำงานเชิงรุก 6 เดือนแรกจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ระบบราชการ ทำให้ประชาชนพ้นหนี้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เอานโยบายมาแก้ 6 เดือน ต่อมาจะส่งรัฐมนตรีไปทำงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด เชิญปราชญ์ชาวบ้านมาพูดคุยอยากเห็นประเทศเดินหน้าอย่างไร

ถ้าพี่น้องให้ความไว้วางใจเพื่อไทย ภายใน 1 ปีหลังเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ปัญหาใหญ่ๆจะถูกแก้ จากนั้นจะลงรายละเอียดเพื่อให้ปัญหาต่างๆหมดไป แล้วเรามาเจอกันใหม่อีก 6 เดือนหลังเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล จะกลับมาช่วยกันระดมความคิดหาทางออก กลับมาทำให้เชียงรายเป็นเมืองที่น่าอยู่อีกครั้ง

“แพทองธาร” ระบุชัดพรรคเพื่อไทยรู้จริงพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งชนะแน่นอน

นส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเปิดเวทีของพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดเชียงราย ว่า การเปิดเวที ที่จังหวัดเชียงราย นั้น ถือว่าพรรคเพื่อไทยรู้จริงเรื่องของพื้นที่ภาคเหนือแล้วก็ของจังหวัดเชียงราย และมาถึงตอนนี้ ยังมั่นใจมากๆ ว่าการเลือกตั้งที่ใกล้มาถึงนี้ จะสู้ได้แน่นอนเพราะว่าเรามีคำตอบให้กับทุกปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่แค่เชียงราย จะเป็นปัญหาหลักของประเทศ ที่ได้กล่าวไปก็คือว่า ในแต่ละพื้นที่ที่มีปัญหาที่จะเป็นตัวแทนเป็นคนที่ลงพื้นที่ตลอดเพราะฉะนั้นไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนอื่น บวกกับนโยบายหลักของพรรคเพราะฉะนั้นคำตอบจะมีให้ประเทศทุกประเทศทุกพรรคหาเสียงด้วยกันเลนส์สไลด์แน่นอน

ส่วนที่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น มาถึงตอนนี้ก็ต้องบอกว่า ต้องรอรายชื่อออกมาก่อน และเชื่อว่า คนที่เหมาะสมที่สุดกับคนที่ฉันไว้ใจที่สุดคนนั้นนั่นแหละที่จะเป็นคนที่จะนำพาประเทศเราไปอยู่ในจุดที่ดีขึ้นกว่านี้ไม่ใช่ว่าจะส่งใครมาคนนั้นจะต้องเป็นคนที่ประชาชนต้องเป็นคนเลือก

นส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รู้สึกไม่กดดัน เรื่องของภาษาเหนือ เพราะที่บ้านก็พูดภาษาเหนือ และฟังออกทุกคำ

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อปฎิเสธที่จะสันบสนุนกฎหมายที่เผด็จการสั่ง ซึ่งการที่รัฐบาลประยุทธ จันทร์โอชา ส่งสัญญาณที่จะเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้ง ส.สระบบบัญชีรายชื่อ จากหาร 100 ให้เป็นหาร 500 ซึ่งการหาร 500 ไม่ไช่เป็นเผด็จการรัฐสภา แต่เป็นสภาที่ถูกเผด็จการสั่งได้ ซึ่งมันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งวิธีการที่เราใช้คือการไม่ร่วมสังฆกรรมไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม เพื่อสนับสนุนกฎหมายนี้ แต่ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วก็ถือเป็นที่สุด ทางพรรคเพื่อไทยก็ต้องยอมรับในคำวินิจฉัยนั้น ซึ่งทางพรรคไม่เกี่ยงว่าการเลือกตั้งจะวิธีการไหน จะ 100 หรือ 500 ทางพรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะสู้ได้ โดยเฉพาะวิธีการแปลกๆที่ว่า 500 นี่ยังมั่นใจกว่า 100 อีก

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวถึงการเปิดตัวส.ส.เชียงรายด้วยว่า ขณะนี้ได้ผู้สมัครชัดเจนแล้ว 7 เขต เชียงรายมีทั้งหมด 8 เขต ที่เหลืออีก 1 เขตกำลังอย่ในกระบวนการอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกตัวบุคคลอยู่แต่จะได้ในเร็วๆ นี้ ไม่เกินเดือนกันยายน ส่วนบัญชีรายชื่อเชียงรายมีบุคคลที่มีศักยภาพอยู่หลายคนที่จะลงได้ แต่ตอนนี้เปิดตัวชัดเจนแล้ว 1 คนอยู่ ซึ่งประเมินจากพี่น้องประชาชน เดี๋ยวนี้ไม่ได้สนข้อกฎหมายแล้ว สนใจข้อเท็จจริงความเป็นอยู่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จึงมีการรณรงค์ให้พล.อ.ประยุทธ พิจารณาตนเองว่า จะอยู่ต่อหรือไม่ ส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้ข้อกฎหมายเป็นหลักที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ ขอให้นายกฯ พ้นจากหน้าและมีคำสั่งคุ้มครองประเทศให้หยุดปฎบัติหน้าที่และให้มีนายกรัฐมนตรีรักษาการไปก่อน

ขอบคุณภาพจาก เพจพรรคเพื่อไทย

ข่าวอื่นๆ