จีนไทยจับมือร่วมกันผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวระดับโลก

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่18พฤษภาคม2561 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โรงแรมไท้กู่ เมืองเชียงรุ่ง จังหวัดสิบสองปันนา ฆลฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน คณะจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายและสมาคมสหพันธ์ท่องเทื่ยวภาคเหนือ ประเทศไทย นำโดยนายอิทธิฤทธิ์  กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายกิตติ ทิศสกุล ประธานสภาอุตสหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย จำนวน 44 คน ได้เดินทางเข้าร่วมหารือกับทางผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเมืองสิบสองปันนา ประเทศจีน โดยการนำของนางหม่า หงษ์  ผู้อำนวยการท่องเที่ยวสิบสองปันนา โดยภายในงานนอกจากจะจัดให้มีการประชุมแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศไทยจีน ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นไปจัดแสดงเพื่อเปิดช่องทางการค้าระหว่างกันด้วย

สำหรับเวทีการหารือถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายและเมืองสิบสองปันนาเป็นอย่างดี เนื่องจากแต่ละประเทศได้มีการตัวแทนจากภาคธุรกิจและภาคส่วนสำคัญในการผลกัดันให้เกิดความร่วมมือทางการค้าและการท่องเที่ยว โดยภาคเอกชนเป้นตัวขับเคลื่อนและมีหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุน โดยคาดหวังว่าจะก่อให้เกิดความร่วมมือและผลักดันเส้นทางท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขงขึ้นสู่ระดับโลกให้ได้

นายเถียน ไขว่  ซิง กรรมการผู้จัดการ บริษัทเหยินต๋า จำกัด ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสิบสองปันนากล่าวว่า บริษัทได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2005 นับเป้นเวลากว่า 13 ปีแล้วที่ดำเนินธุรกิจมา ในปี 2007-2009  ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอันดับปี  ต่อมาได้มีการเปิดสาขาในต่างประเทศในปี 2017 โดยเปิดขึ้นที่ ประเทศลาว  ในปี 2018 ได้ดำเนินธุรกิจในแขวงอุดมไชย สปป,ลาว ในอนาคตวางแผนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศไทยด้วย  โครงการหนึ่งเส้นทาง หนึ่งถนน เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงแม่น้ำล้านช้าง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดรูปธรรมได้โดยเร็วก็คือการผลัดดันในเรื่องของวีซ่า โดยเฉพาะซิงเกิ้ลวีซ่า  ให้สามารถใช้ได้ 4 ประเทศ จะทำให้การท่องเที่ยวมีความสะดวกและได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น  และในปี 2022 รถไฟความเร็วสูงจากจีนผ่าน สปป.ลาว ก็จะเปิดใช้ก็จะทำให้เส้นทางคมนาคมสะดวกนักท่องเที่ยวสามารถไปท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตของแต่ละประเทศได้เป็นอย่างดี

/////////////

ข่าวอื่นๆ