ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หารือคณะกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจังหวัดเชียงรายกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม และพร้อมสนับสนุนนโยบายจีนเดียว
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ให้การต้อนรับ นายอู๋ จื้ออู่ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ และคณะ เนื่องในโอกาสที่เดินทางมารับตำแหน่งใหม่ และเดินทางทางเข้าพบปะหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับจังหวัดเชียงราย ทั้งด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
นายอู๋ จื้ออู่ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ ได้ แต่เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เริ่มคลี่คลาย จึ่งได้ถือโอกาสนี้ มาพบปะหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับจังหวัดเชียงราย ให้มีความแน่นแฟ้นและขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้กว้างขวางขึ้น เนื่องจากจังหวัดเชียงราย ราชอาณาจักรไทย เป็นจังหวัดใหญ่และอยู่ใกล้กับมณฑลยูนนานสาธารณรัฐประชาชนจีนมากที่สุด ประกอบกับความสวยงามทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม เป็นเสน่ห์ของจังหวัดเชียงราย ที่จะสามารถดึงดูดนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว มาลงทุนและท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย และใช้โอกาสนี้หารือ และวางแผนงานเพื่อดำเนินการภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด- 19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ด้านนายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย ราชอาณาจักรไทย กับ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะมณฑลยูนนาน มีความสัมพันธ์กันมาเป็นระยะเวลานาน มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และการค้าขายระหว่างกันผ่านทางถนนเส้นทาง R3a จากจังหวัดเชียงราย ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไปยังมณฑลยูนนาน และถนนเส้นทาง R3b จากจังหวัดเชียงราย ผ่านสหภาพเมียนมา ไปยังมณฑลยูนนาน รวมถึงการค้าขายผ่านทางแม่น้ำโขง จากจังหวัดเชียงราย ไปยังมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีค่าใช้จ่ายถูกที่สุด จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ผ่านมา การค้าขายผ่านทางแม่น้ำโขง ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่อง สาธารณรัฐประชาชนจีน และปิดท่าเรือซึ่งเป็นประตูการค้าขายที่สำคัญทางแม่น้ำโขง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผลผลิตทางการเกษตรของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะลำไย เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวจีนในมณฑลยูนนานเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถส่งออกไปทางแม่น้ำโขงได้ สามมารถจัดส่งได้เพียงทางถนนเส้นทาง R3a ซึ่งมีค่าใช้จ่ายทางด้านภาษีที่สูงมาก ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเลยต้องส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ส่งไปยังภาคกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่ใช้เวลานาน ทำให้สินค้าซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพด้อยลงไป เลยขอความร่วมมือ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประสานให้มีการเปิดท่าเรือกวนเล่ย เพื่อให้การค้าระหว่างจังหวัดเชียงราย กับ มณฑลยูนนาน ผ่านเส้นทางแม่น้ำโขงได้สะดวกยิ่งขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประกอบการซึ่งจะเป็นผลดีกับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่สวยงามมากมาย มีที่พักพร้อมที่จะรองรับ ชาวจีนมาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงราย
กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า จังหวัดเชียงรายมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นที่น่าสนใจและชื่นชอบของชาวจีน อย่างเช่น วัดร่องขุ่น วัดร่องเสือเต้น และดอยตุง ขอให้จังหวัดเชียงราย ออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวที่ครบวงจร แล้วจะนำไปแจ้งให้กับนักเที่ยวชาวจีนได้รับทราบ และพร้อมจะสนับสนุนความสัมพันธ์แบบบ้านพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดเชียงรายกับมณฑลต่างๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนและขยายตลาดการท่องเที่ยวและการค้าด้วย ส่วนการเปิดท่าเรือ กวนเล่ย เพื่อเชื่อมโยงการค้าระหว่างจังหวัดเชียงราย กับมณฑลยูนนาน จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอรัฐบาลกลางพิจารณา
โอกาสเดียวกันนี้ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอความร่วมมือจังหวัดเชียงราย ช่วยติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลชาวไต้หวัน ที่จะมาใช้พื้นที่จังหวัดเชียงราย เคลื่อนไหวทางการเมือง และบุคคลสำคัญเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งในเรื่องนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ให้คำยืนยันว่าจังหวัดเชียงราย จะยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว และพร้อมจะให้การสนับสนุนด้วยความจริงใจ
ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับทราบสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทำให้ประชาชนชาวเชียงรายได้รับผลกระทบหลายครัวเรือน และได้มอบเงิน จำนวน 100,000 บาท เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนจังหวัดเชียงรายให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ด้วย