เมื่อวันที่19 พฤษภาคม2561 พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย หน่วยทหารกองบังคับการควบบคุมพื้นที่พิเศษรอยต่อ 4 อำเภอ จ.เชียงราย (ร.17 พัน.4) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดของกลางยาเสพติดโดยประกอบด้วยยาบ้าจำนวน 39 กระสอบรวมจำนวน 7,800,000 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 2 กระสอบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม ซึ่งตรวจยึดได้ขณะที่ขบวนการค้ายาเสพติดขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทาดำ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ขับผ่านถนนบ้านป่าสักงาม หมู่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเวลาประมาณ 21.45 น.แต่ถูกทหารกองบังคับการควบคุม ตั้งจุดสกัดและมีการขับแหกด่านแล้วรถไปพุ่งตกลงข้างทางโดยขบวนการค้ายาเสพติดสามารถหลบหนีไปได้
ผลการตรวจยึด เจ้าหน้าที่พบว่ายาบ้าที่พบมีทั้งที่ประทับตราที่ห่อเป็นอักษร Y1 และตัวเลข 999 ส่วนยาไอซ์บรรจุในถุงใบชาและมีถุงพลาสติกสูญญากาศอยู่ภายในเพื่อบรรจุยาไอซ์อีกชั้นหนึ่ง จากการประเมินมูลค่าพบว่ายาบ้ามีมูลค่ารวมประมาณ 800 ล้านบาท โดยเป็นยาบ้าที่ผลิตโดยยาบ้า Y1 เป็นของกลุ่มว้าภาคเหนือที่มีเกรดดีกว่าแหล่งอื่นๆ
จากข้อมูลของกองทัพภาคที่3 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-สิ้นเดือน พ.ค.เจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ร่วมกันปฏิบัติการจัดระเบียบชายแดนและสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเข้มข้นจนทำให้สามารถสกัดกั้นยาเสพติดรายใหญ่ได้หลายครั้ง โดยวันที่ 2 เม.ย.สามารถตรวจยึดยาบ้า 9.4 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 788 กิโลกรัมพื้นที่ อ.เวียงแก่น เมื่อรวมระยะเวลาประมาณ 50 วัน ของปฏิบัติการและนำมารวมกับการตรวจยึดในครั้งนี้พบว่ามีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และรวมของกลางยาบ้าได้กว่า 17.2 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 388 กิโลกรัม
ทั้งนี้ยาเสพติดทั้ง 2 ชุดการจับกุม เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีเจ้าหน้าที่ทหารได้วิสามัญฆาตกรรมขบวนการขนยาเสพติดจำนวน 6 ศพ ยึดยาบ้าได้จำนวนมากที่ชายแดนไทย–เมียนมา พื้นที่หมู่บ้านจะลอ หมู่ 10 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย สามารถยึดยาบ้าได้กว่า 3-4 ล้านเม็ด ครั้งนั้นพบว่าเป็นกลุ่มอาข่าและสำหรับขบวนการค้ายาเสพติดที่ตรวจยึดได้ที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง ในครั้งนี้ก็พบว่ามาจากกลุ่มอาข่าเชื่อมโยงกับเหตุวิสามัญฆาตรกรรม 6 ศพดังกล่าว โดยจากการตรวจรถยนต์ที่ใช้ขนมีชาวอาข่าที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ได้ซื้อใหม่ด้วยเงินสดมาเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมานี้เพื่อนำมาขนโดยเฉพาะ ส่วนเครือข่ายนี้ก็เชื่อมโยงกับคดีตรวจยึดยาบ้า 9.4 ล้านเม็ดและยาไอซ์ 788 กิโลกรัมพื้นที่ อ.เวียงแก่น ด้วยจึงเรียกได้ว่าเชื่อมโยงเป็นกลุ่มเดียวกันหมด โดยกรณีของยาบ้าที่ อ.เวียงแก่น ยังเกี่ยวพันกับกรณียิงครอบครัวนายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต กำนัน ต.ปอ อ.เวียงแก่น
พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่าพฤติกรรมของขบวนการนี้เหมือนกันคือลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาทางชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง แล้วนำอ้อมถนนสายหลักไปทางสายรองดังกล่าวแต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้มีการข่าวจากภาคประชาชนที่ดีจึงสกัดยึดได้ที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง ได้ในครั้งนี้ และยังมีพฤติกรรมบรรจุยาบ้าครั้งละมากๆ ลักษณะเป็นการบรรจุจากโรงงานที่มีระบบกันน้ำด้วยพลาสติก กระดาษไขเครือบเป็นชั้นๆ มาเป็นอย่างดี ส่วนยาไอซ์ก็อยู่ในถุงใบชาสูญญากาศที่ทำให้จับเป็นก้อนแข็ง
จากลักษณะยาเสพติดหากเป็น Y1 มักจะขนไปยังตลาดต่างประเทศและอื่นๆ ส่งไปภาคกลางและอื่นๆ ในประเทศไทย สำหรับกรณีล่าสุดนี้พบว่ากลุ่มอาข่ามีบทบาทมากขึ้นโดยเดิมกลุ่มนี้จะขนเฉพาะในพื้นที่เขตอิทธิพลของตนตามแนวชายแดนและไม่ขนลงถนนสายใหญ่ของพื้นราบ แต่ปรากฎว่าครั้งนี้กลับพบว่ามีพฤติกรรมขนเองในพื้นราบจึงคาดว่าจะน่าถูกกดดันหนักกะนั้นของกลางก็คาดว่านำเข้ามาจากเขตอิทธิพลเดิมคือจากบ้านผาขาวในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทางหมู่บ้านจะลอเป็นหลัก/////