เมื่อเวลา 17.00น. 10 เมษายน 2566 ประชาชนชาวเชียงราย รวมทั้งคณะสงฆ์ และสามเณร จากวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ กลุ่มแพทย์ใน จ.เชียงราย ภาคเอกชน เยาวชน องค์กรเอกชน ได้ไปรวมตัวจัดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 และขอยื่นหนังสือต่อนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ห้าแยกพ่อขุน อ.เมือง จ.เชียงราย
และขอทราบการแก้ไขปัญหาของจังหวัดทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว โดยมีการถือป้ายข้อความต่าง ๆ บางป้ายเขียนล้อคำขวัญประจำจังหวัด รวมทั้งเปิดให้ผู้คนเขียนข้อความแสดงความเห็นบนกระดาน ก่อนผลัดกันปราศรัย และมอบน้ำดื่ม เกลือแร่ ที่มีผู้นำไปบริจาคให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เพื่อนำไปใช้ในภารกิจ
แพทย์หญิงท่านหนึ่ง ที่เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า ฝุ่น PM 2.5 มีผลกระทบต่อคนทุกเพศวัยโดยที่คนทั่วไปยังไม่ตื่นตระหนกว่า กรณีเด็กเล็กหากสูดเข้าไปจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก ส่วนผู้ใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ปอด จะกระทบหนัก และในระยะยาวจะทำให้ผู้คนที่อยู่ในพื้นที่นี้อายุสั้นลง 4 ปี ส่วนการป้องกันด้วยหน้าการที่ใช้กันโดยทั่วไปจะไม่ได้ผลกับฝุ่นขนาดเล็กนี้แต่ต้องใช้หน้ากากแบบ N 95 ขึ้นไปเท่านั้น
ทั้งนี้ยังมีผู้ปราศรัย ระบุว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ควรจะเป็นปัญหาระดับภูมิภาคนี้เพราะไม่ได้มีแค่ จ.เชียงราย หรือประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบต่อใน สปป.ลาว และเมียนมา ต่างเผชิญกับปัญหาเหมือนกัน ดังนั้นภาครัฐควรแก้ไขปัญหาระยะยาว เช่น กระทรวงพาณิชย์หารือกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงการต่างประเทศหารือเรื่องแนวนโยบายต่อปัญหานี้ร่วมกัน ฯลฯ
เวลาต่อมา นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 และ นายสมเกียรติ ปูกา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ได้ชี้แจงต่อผู้ชุมนุม
ซึ่ง นายวราดิศร ระบุว่า จังหวัดเชียงรายได้วางแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ส่วนไฟป่าในจังหวัดพบว่าเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ป่าเขาสูงชันและผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟจุดใดได้แล้วก็จะย้ายไปเผาจุดใหม่อีก ป้จจุบันจึงใช้มาตรการเข้มข้นจับกุมได้แล้วหลายราย
นายสมเกียรติ ประกาศต่อผู้ชุมนุมว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ลักลอบเผาและทำลายป่าได้แล้ว 18 ราย ////