อพท. ร่วมเครือข่ายเชียงราย ผลักดันสู่ “เมืองสร้างสรรค์  จาก UNESCO” 

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.  เป็นประธานเปิดกิจกรรม การส่งเสริมและเสวนาด้านการออกแบบระดับนานาชาติ ร่วมกับเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ภายใต้แผนที่นำทาง ( Roadmap ) เมืองเชียงรายสู่เมืองสร้งสรรค์ของ UNESCO โดยจัดขึ้นที่ โรงแรมแสน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย  โดยมี นายสุขสันต์  เพ็งดิษฐ์ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 8 ( อพท.8 ) เป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม

กิจกรรมดังกล่าวจัดโดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.  ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย   สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้  มหาวิทยาลัยพะเยา  ขัวศิลปะ คณะกรรมการขับเคลื่อนจังหวัดเชียงรายสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ และภาคีเครือข่ายจำนวนมากทั้งภาครัฐ เอกชน กว่า 40 องค์กร

อาทิ เทศบาลนครเชียงราย หอการค้าจังหวัดเชียงราย บริษัท เชียงรายพัฒนาเมือง จำกัด กลุ่มชาติพันธุ์จังหวัดเชียงราย มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และกลุ่มศิลปินแม่ญิง อาร์ติสท์ คอลเลคทีฟ ร่วมจัดกิจกรรมการส่งเสริมและเสวนาด้านการออกแบบระดับนานาชาติร่วมกับเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ภายใต้แผนที่นำทาง (Roadmap) เมืองเชียงรายสู่เมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระหว่าง ที่ 6-7 มิถุนายน 2566 

ซึ่งมีการจัดงานเสวนาด้านการออกแบบระดับนานาชาติ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผู้ประกอบการ การพัฒนานวัดกรรม การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ โดยให้มีการร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ ให้เกิดเป็นรูปธรรมที่สามารถนำมาสร้างผลงานด้านการออกแบบได้จริง

โดยมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้แทนสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสุโขทัย กรุงเทพมหานคร เมืองฮานอย (เวียดนาม) เมืองเชินเจิ้น (จีน) และ เมืองจีลอง (ออสเตรเลีย) อันสอดคล้องกับแผนที่นำทาง ในยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนากลไก การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย การบริหารจัดการแลกเปลี่ยน  องค์ความรู้สร้างสรรค์สู่สากล เพื่อการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน 

เป็นการสร้างการรับรู้และติดต่อสื่อสารในระดับนานาชาติและระดับชาติ รวมทั้งส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วม ระดับชาติและนานาชาติ (Participatory Process) ที่จะทำให้ภาคี เครือข่ายได้มีการมองการพัฒนาที่จะก้าวไปสู่อนาคต (Forward-looking approach) การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยมีส่วนร่วมจากทุกองค์กร (Inclusive sustainable development) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการประสานงานทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ (Exchanges and cooperation)

โดยจุดเด่นของการจัดกิจกรรมในปีนี้ คือ Design Together for Chiangrai ภายใต้การนำแนวคิด “เปิดโลก หรือThe Open world” มาใช้ในกิจกรรมครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงงานขับเคลื่อน UCCN กับ การจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ณ จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566

ถึง 30 เมษายน 2567 จากความสำคัญของงานจะทำให้ผู้ชมได้ ‘เปิดโลก’ แห่งการรับรู้ ทางศิลปะอย่างเต็มอิ่มไปกับผลงานของศิลปีนร่วมสมัยนานาชาติ ยังจะช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้ผู้คนเข้าถึงความเป็นเชียงรายอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการจัดกิจกรรมภายใต้แผนที่นำทาง (Roadmap) เมืองเชียงรายสู่เมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ระยะ 5 ปี ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมแบบบูรณาการและสร้างการรับรู้ 

อพท. จึงกำหนดแผน กิจกรรมให้มีความเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและเสวนาด้านการออกแบบระดับนานาชาติ ร่วมกับเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ โดยให้มีการร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ ให้เกิดเป็นรูปธรรมที่สามารถนำมาสร้างผลงานด้านการออกแบบได้จริง โดยมีการจัดเวทีเสวนาด้านการออกแบบระดับนานาชาติ ในประเด็น ” เปิดโลก เมืองสร้างสรรค์สู่ความยั่งยืน” The Open World of Creative Cities towards Sustaina bility เปิดบทสนทนาว่าด้วยแนวทางการขับเคลื่อนพัฒนาการเป็นเมืองสร้างสรรค์ โดย วิทยากรพิเศษ จากผู้ขับเคลื่อนเมือง รวมทั้งผู้แทนเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network UCCN) ร่วมค้นหาแรงบันดาลใจในการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาและยกระดับ เชียงรายสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ 

นอกจากนี้ ยังมีแผนในการดำเนินกิจกรรมการทำงานร่วมกับกลุ่มศิลปิน กลุ่มผู้หญิง กลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มเยาวชนคืนถิ่น เพื่อร่วมขับเคลื่อนเชียงรายในการ “เปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดโลก @ เชียงรายสู่ความยั่งยืน” ให้เกิดแหล่งเรียนรู้ หรือพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) ต่อไปในอนาคตอีกด้วย..