วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายโชคชัย วงละคร สัตวแพทย์อาวุโส ด่านกักกันสัตว์เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจห้องเย็นของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย เพื่อตรวจเช็คสต๊อกสินค้าว่ามีสินค้าผิดกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าประเภทหมูแช่แข็ง ภายหลังจากเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ จ.แพร่ สามารถสกัดจับรถบรรทุกหมูแช่แข็ง ซึ่งใช้ใบอนุญาตขนส่งสินค้ากรมปศุสัตว์ปลอม โดยได้ระบุปลายทางว่าจะนำส่งมายังห้องเย็นดังกล่าว
ทั้งนี้เพื่อป้องกันการลักลอบนำหมูเถื่อนเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ ประกอบการทางกลุ่มสมาพันธุ์ผู้เลี้ยงสุกรได้ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ดำเนินการตรวจสอบการลักลอบนำหมูเถื่อนจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จนส่งผลทำให้ราคาหมูในประเทศราคาตกต่ำ โดยให้มีการตรวจสอบเส้นทางนำเข้าหมู ตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ในการนำเข้าหมู โดยระบุว่าส่วนหนึ่งมีการนำเข้ามาทางชายแดนด้าน จ.เชียงราย
แต่อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบยังห้องเย็นแห่งนี้ ไม่พบว่ามีการนำหมูเถื่อนเข้ามาสต๊อกไว้ หมูแช่แข็งทั้งหมดเป็นหมูที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง และผ่านการตรวจของกรมปศุสัตว์แล้วทุกรายการ ซึ่งทางผู้ดูแลยืนยันว่าหมูทั้งหมดไม่ได้เป็นของบริษัท เป็นเพียงห้องเย็นให้เช่า ซึ่งมีลูกค้ามาใช้บริการถึง 22 ราย และทุกรายก็มีใบอนุญาตถูกต้องทั้งหมด
นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การนำเข้าหมูเถื่อนผ่านมาทางด้าน จ.เชียงราย เป็นไปค่อนข้างยาก เส้นทางชายแดนกว่าจะมาถึงค่อนข้างที่จะลำบากและระยะไกล ไม่คุ้มกับค่าขนส่ง ส่วนมากหมูเถื่อนจะถูกนำมาจำหน่ายในพื้นที่เสียมากกว่า แต่ที่ผ่านมาการจับกุมระหว่างการขนส่งระหว่างจังหวัดก็ยังไม่ตรวจพบ อย่างไรก็ตามทางปศุสัตว์เชียงราย ก็ไม่ไว้วางใจมีการคุมเข้มตลอดเวลา มีการสุ่มตรวจห้องเย็นที่มีอยู่ประมาณ 36 แห่ง อยู่เป็นระยะ และมีการสุ่มตรวจตามร้านจำหน่ายหรือเขียงหมูเป็นประจำ ซึ่งก็ยังไม่มีการตรวจพบหมูเถื่อนในพื้นที่เลย พร้อมกันนี้ทางกรมปศุสัตว์ก็ได้เน้นย้ำไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หรืออำนวยความสะดวกการนำหมูเถื่อนเข้าหรือผ่านพื้นที่ในทุกกรณี
นายโชคชัย วงละคร สัตวแพทย์อาวุโส ด่านกักกันสัตว์เชียงราย ซึ่งดูแลพื้นที่ด่านชายแดน 3 แห่งคือ แม่สาย เชียงแสน และเชียงของ ระบุว่า จากการเฝ้าระวังเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนทุกด้าน แทบจะไม่มีตรวจพบหมูเถื่อนเลย มีเพียงการตรวจยึดเนื้อหมูประมาณ 200 กิโลกรัม ที่ชายแนด้าน อ.เชียงของ เพียงครั้งเดียว ซึ่งต้นทางระบุมาจากประเทศแม็กซิโก โดยบรรทุกเรือหายาวจะมาส่งลูกในฝั่งไทย จากนั้นก็ไม่มีการตรวจพบอีกเลย ซึ่งแม้กำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมือในการตรวจสอบจะไม่ค่อยเพียงพอ แต่ก็ตรึงพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่ หากมีการลักลอบเข้าประเทศเชื่อว่าจะสามารถจับกุมได้
“สิ่งที่น่าห่วงมากคือการจำหน่ายเนื้อหมูออนไลน์ ที่อาจแอบแฝงเนื้อหมูเถื่อนมาจำหน่ายได้ เพราะการตรวจสอบทำได้ค่อนข้างยาก แม้จะเข้าตรวจในกลุ่มผู้โพสต์ขาย แต่ไม่มีของกลางให้ตรวจสอบ ซึ่งมักจะอ้างว่าเป็นเพียงการรับออเดอร์ เมื่อได้แล้วถึงจะไปรับหมูจากเขียงหมู หรือห้องเย็นส่งไปจำหน่าย ส่งตรวจได้ยากว่าเป็นหมูเถื่อนหรือไม่ ซึ่งผู้บริโภคควรเลือกรับประทานจากเขียงหมู หรือห้องเย็นที่จำหน่ายหมูเหล่านี้โดยตรงจะปลอดภัยกว่า เพราะหากได้เนื้อหมูไม่รู้แหล่งที่มาชัดเจน อาจเสี่ยงต่อสุขภาพและการแพร่ระบาดของโรคได้” นายโชคชัย กล่าว.