วันที่ 27 มกราคม 2567 ดร.บัวคง นามมะวง เจ้าแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เป็นประธานเปิดการประชุม การนำเสนอเมืองแห่งการท่องเที่ยว ที่จะสามารถรองรับการท่องเที่ยวในระดับอาเซียนได้โดยมี คณะผู้บริหารแขวงบ่อแก้ว ผู้จัดการเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ (คิงส์โรมัน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สปป.ลาว นำเสนอเรื่องการท่องเที่ยว โดยมี ผู้ประกอบการ การท่องเที่ยว นำเที่ยว จาก จีน ลาว เวียดนาม และประเทศไทยเข้าร่วม
ซึ่งฝ่ายไทย มี นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดเชียงราย นางปทุมพรแก้วคำ นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงราย และตัวแทนสมาคมเครือข่ายท่องเที่ยว(เอเจนท์)เชียงราย ตัวแทนสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการร้านอาหารเชียงราย เข้าร่วม
โดยจัดขึ้นที่ห้องประชุม โรงแรมแห่งดอกงิ้วคำ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ(คิงส์โรมัน)
นอกจากนี้ จ้าวเหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ได้ร่วมในการประชุมนำเสนอข้อมูลด้านท่องเที่ยว และเป็นการสักขีพยาน ในการลงนามความร่วมมือ ระหว่างหัวหน้าแผนกการท่องเที่ยว เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลียมทองคำ (คิงส์โรมัน) กับ ผู้ประกอบการถ่ายภาพ สปป.ลาว และ ชมรมรถบิ๊กไบค์ สปป.ลาว เพื่อเผยแพร่เรื่องการท่องเที่ยวใน เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลียมทองคำ (คิงส์โรมัน)
โดย ดร.บัวคง นามมะวง เจ้าแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กล่าวว่า ปัจจุบันแขวงบ่อแก้ว มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในทุกเดือน โดยเน้นไปที่สถานที่ท่องเที่ยวในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ (คิงส์โรมัน) การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงาม การท่องเที่ยวเชิงกีฬากลอฟ์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้การเดินทางเข้ามายัง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว สะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งทางน้ำ ผ่านแม่น้ำโขงมาจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทางอากาศเพราะมีสนามบินที่พร้อมให้บริการแล้วและการเดินทางถนนในหลากหลายช่องทาง
โดยจะเห็นได้ว่า งานเทศกาลดอกงิ้วบาน ครั้งที่ 21 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26-28 มกราคม 2567 นั้น เป็นการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้มากขึ้น และเป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ รวมทั้งได้รักษาประเพณีวัฒนธรรมเอาไว้ ดังนั้นขณะนี้ทางแขวงบ่อแก้ว และ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ (คิงส์โรมัน) พร้อมแล้วที่จะรับนักท่องเที่ยวทุกประเทศเข้ามาเที่ยวเมืองแห่งนี้
ทางด้าน นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากการประชุมนำเสนอครั้งนี้ของ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ถือว่าเป็นผลดีต่อจังหวัดเชียงรายด้วย เพราะถือว่าเป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว 2 ประเทศที่มีชายแดนติดกัน เพราะเมื่อมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็จะเดินแวะเที่ยวจังหวัดเชียงรายด้วย ก่อนเดินทางข้ามไปยังแขวงบ่อแก้วสปป.ลาว และ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ หรือไม่ก็จะเดินทางต่อมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงราย เพราะจังหวัดเชียงราย มีจุดขายอยู่แล้ว โดยเฉพาะวัดร่องขุ่น บ้านดำ รวมทั้งการจัดกิจกรรมที่หลากหลายในการดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั่งผลงานด้านศิลปะระดับโลก
และจากการได้พูดคุยกับทาง จ้าวเหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำนอกรอบทราบว่า อนาคตทาง เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ยังจะจัดทำเรือสำราญขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขง เพื่อเดินทางท่องเที่ยวตลอดแนวลำน้ำโขงอีกด้วย.