พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 ตรวจเยี่ยมโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ที่วัดศรีเมืองมูล ตำบลหัวง้ม อำเภอพาน

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่21มิถุนายน2561 นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พระเทพสิทธินายก เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย พระเถระผู้ใหญ่ ส่วนราชการ ประชาชนในพื้นที่ ตำบลหัวง้ม อำเภอพาน ร่วมต้อนรับ พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 และคณะกรรมการตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งการขับเคลื่อนโครงการฯ โดยยึดหลักการและวิธีดำเนินงานตามมติมหาเถรสมาคมเพื่อนำไปสู่การดำเนินชีวิตตามวิถีชาวพุทธของประชาชนอย่างยั่งยืนมีการบูรณาการการทำงานเป็นเครือข่ายทุกภาคส่วน ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้าน ครอบคลุมเด็ก และเยาวชน สร้างความปรองดองสมานฉันท์รักและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์

นอกจากนี้แล้วคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ได้กำหนดให้มีการประชุมคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย 6 ครั้งเพื่อปรึกษาหารือในเรื่องดังกล่าว กำหนดให้คณะสงฆ์ทุกอำเภอจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ อาทิเช่น โครงการเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล เป็นต้น ในการนี้จังหวัดเชียงราย มีการรายงานหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบ ครบทุกอำเภอคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงรายได้ร่วมกันพิจารณาและประเมินผลการดำเนินโครงการฯหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบ ในแต่ละอำเภอแล้ว ปรากฏว่าเห็นควรใช้หมู่บ้านบวกขอน ตำบลหัวงัม อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เป็นหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบ ระดับจังหวัด โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ของหมู่บ้าน เช่น จัดให้มีการเรียนการสอนผู้สูงอายุ

ซึ่งมีพระอาจารย์สุจิณกัลยาณธรรม เจ้าอาวาสวัดศรีเมืองมูล รองเจ้าคณะอำเภอพาน จ.เชียงราย ผู้ก่อตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุได้เล่าถึงที่มาที่ไปของการจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุของตำบลหัวง้มขึ้นมาว่า ที่นี่เคยประสบกับปัญหาของผู้สูงอายุ อาทิ การทำร้ายตัวเอง การฆ่าตัวตายซึ่งนับวันจะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทาง อบต.หัวง้ม จึงได้รวมตัวกับผู้นำชุมชน วัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ขาดโอกาส ขาดการดูแลเอาใจใส่ได้กลับมามีวิถีชีวิต มีความสุข และมีองค์ความรู้มีภูมิความรู้ที่ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน จึงได้เกิดเป็นโรงผู้สูงอายุขึ้นในปี 2553 โดยจะสอนให้ผู้สูงอายุมีความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินชีวิต เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ และกิจกรรมสานต่องานทำดีเพื่อพ่อช่วงปิดภาคเรียน หรือช่วงพักเวลาเรียนจะมีกลุ่มเยาวชนที่เรียกว่า “หมอน้อย” จะออกเยี่ยมเยียนผู้ป่วยตามบ้านต่างๆ ซึ่งเป็นความสมัครใจของน้องๆ หนูๆ ที่มีความพยายามที่จะเข้ามาช่วยเหลือที่เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของโครงการ หมู่บ้านรักษาศีล 5 และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการที่ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ด้วย

/////////////////

Kao Krai News

Recent Posts