ลุยค้นหาเด็กติดถ้ำแบบไม่หยุดสลับกำลังเข้าทั้งใต้น้ำและเหนือถ้ำ

เมื่อวันที่27มิถุนายน2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการติดตามค้นหาเพื่อช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าซึ่งเป็นเยาวชนชายอายุ 11-16 ปี จำนวน 12 คนและผู้ฝึกสอนหรือโค้ชอายุ 25 ปีจาก ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมทั้งหมด 13 คน ที่หลงเข้าไปติดอยู่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน หมู่บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านว่าล่าสุดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.เชียงราย ตั้งอยู่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของวนอุทยานดังกล่าว ได้มีมติให้มีการประชุมในเวลา 09.00 น.และเวลา 16.00 น.ของทุกวันเพื่อให้ปฏิบัติการดำเนินไปตลอด 24 ชั่วโมง 

โดยปฏิบัติการหลักคือการจัดสูบน้ำออกจากถ้ำโดยมีสำนักงานสังกัดกรมบรรเทาสาธารณภัย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทหาร ตำรวจ ฯลฯ ระดมกำลังกันนำเครื่องมืออุปกรณ์เข้าไปยังถ้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ขณะที่องค์กรด้านการสื่อสารติดตั้งระบบการสื่อสารเพื่อให้ศูนย์สามารถประสานงานทั้งภายในถ้ำและทีมที่ส่งไปภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านทหารจากกรมรบพิเศษที่ 1 ทหารเรือ หน่วยหน่วยชีล ยังคงปฏิบัติดำเพื่อพยายามเข้าไปถึงจุดที่ใกล้กับจุดที่คาดว่ากลุ่มเด็กๆ จะหนีน้ำไปอยู่ให้ได้มากที่สุด และล่าสุดได้รับการสนับสนุนกำลังพลจากกองทัพเรือเพิ่มเติมอีก 1 ชุด และมีหน่วยประดาน้ำของตำรวจส่งเข้าไปสนับสนุนอีกด้วยทำให้มีนักดำน้ำหมุนเวียนกันทำงานถึง 3 ผลัดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหน่วยชีพได้ทำสัญลักษณ์ใต้น้ำเพื่อให้ทีมที่เข้าต่อๆ กันไปสามารถเข้าไปได้ถูกทิศทางต่อไป

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะหัวหน้าศูนย์ฯ เปิดเผยว่าการดำเนินการในปัจจุบันคือการพยายามเอาน้ำออกจากถ้ำให้มากที่สุดเพื่อให้หน่วยชีพและนักประดาน้ำต่างๆ สามารถทำงานได้โดยสะดวก โดยมีการนำสายไฟฟ้าเข้าไปหลายครั้งๆ แรก 1,500 เมตร ครั้งที่ 2 ยาว 700 เมตร ครั้งที่ 3 ยาว 4 กิโลเมตรทำให้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปได้ไกลประมาณ 6 กิโลเมตร เพื่อใช้สูบน้ำออกและส่องสว่างภายในตลอด 24 ชั่วโมง โดยปัจจุบันมีเครื่องสูบน้ำภายในถ้ำ 10 กว่าตัวและภายนอกที่มีหน่วยงานต่างๆ สนับสนุนอีกหลายชุด ขณะเดียวกันมีการระดมสูบน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำด้านนอกเพื่อรับน้ำและปิดกั้นทางเดินน้ำที่จะไปสู่ถ้ำแล้วหลายจุดด้วย

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่านอกจากนี้ยังหาวิธีการเข้าไปทางปล่องเพื่อให้ผู้ช่วยเหลือได้โรยตัวลงไปช่วยเด็ก หลังจากได้รับทราบจากคนท้องถิ่นและผู้ที่เคยเข้าไปในถ้ำรวมถึงชาวต่างประเทศที่มีความชำนาญว่าภายในถ้ำอากาศถ่ายเทได้ดี โดยปัจจุบันพบแล้วจำนวน 1 ปล่องที่มีพิกัดตรงกับจุดที่คาดว่าเด็กๆ จะอยู่ โดยปฏิบัติการโรยตัวจะเริ่มตั้งแต่มีแสงสว่างในวันที่ 27 มิ.ย.เป็นต้นไป หลังจากที่เตรียมจะดำเนินการในเย็นวันที่ 26 มิ.ย.แต่เป็นเวลาพลบค่ำลงเสียก่อน โดยทางกองทัพภาคที่ 3 จะนำเฮลิคอปเตอร์ที่มีการศักยภาพทรงตัวได้ดีไปทำการโรยตัวหรืออาจจะโรยจากปากถ้ำลงไป เพราะได้มีการส่งทีมเดินเท้าจำนวน 12 ทีมที่มีอาหารและน้ำดื่มสามารถอยู่ได้นาน 3 วันโดยไม่ต้องเติมเสบียงให้ไปรออยู่ที่ปากปล่องดังกล่าวเพื่อเตรียมพร้อมแล้ว และอีกหลายทีมให้แยกกระจายไปหาปล่องอื่นเพิ่มเติม โดยการเตรียมพร้อมดังกล่าวเพราะการเดินจากศูนย์ไปยังปล่อยใช้ระยะเวลาเดินเท้าเข้าไปอีก 3 ชั่วโมงจึงต้องไปเตรียมพร้อมไว้ก่อนตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 26 มิ.ย.นี้แล้ว ทั้งนี้ผู้ที่ไปยังปล่อยเป็นมืออาชีพที่มีความสามารถในการโรยตัว และเมื่อพบตัวเด็กๆ ก็จะพิจารณาดำเนินการเป็น 2 ทางคือนำออกทางเดิมที่มีการสูบน้ำออกกรณีน้ำพล่องลงไปจนสามารถออกได้ หรือนำโรยตัวขึ้นด้านบนต่อไปแต่เบื้องต้นให้นำน้ำและอาหารเข้าไปให้ก่อนต่อไป

ด้าน พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังศูนย์ฯ พร้อมระบุว่าทางตำรวจนอกจากจะสนับสนุนด้านนักประดาน้ำดังกล่าวแล้วยังมีการสนับสนุนกำลังพลด้านปกติเต็มพิกัดและส่งหน่วยพลร่มที่มีความชำนาญด้านการโรยตัวและช่วยเหลือกรณีที่จะต้องทำการโรยตัวลงปล่องดังกล่าวด้วย.////