วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 นายนิยม สุวรรณประภา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ได้ดำเนินการโอนโฉนดที่ดินและมอบโฉนดที่ดินให้เกษตรกร ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 1 ราย เป็นโฉนดที่ดิน จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 16 ไร่ 1 งาน 61 ตารางวา โดยมีนายรุ่งรัตน์ มานะรุ่งเรือง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย เป็นสักขีพยาน ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย
นายนิยม กล่าวว่า สำหรับการโอนโฉนดที่ดินและมอบโฉนดที่ดินคืนให้เกษตรกรรายดังกล่าว เนื่องมาจากการที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ได้เข้าไปชำระหนี้แทนเกษตรกร ให้กับสหกรณ์ฯเจ้าหนี้ของเกษตรกร โดยเกษตรกรได้นำที่ดิน ไปจำนองค้ำประกันการกู้เงินกับสหกรณ์ฯ และเกษตรกรไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้ให้กับสหกรณ์ฯ ได้ตามสัญญา และเกษตรกรได้ยื่นมาเรื่องขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย โดยได้รับการช่วยเหลือในการชำระหนี้แทนดังกล่าว ทั้งนี้ที่ดินจะตกเป็นของ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามกฎหมาย โดยเกษตรกรทำสัญญาเช่าชื้อที่ดินคืน กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นระยะเวลา 15 ปี และเกษตรกรได้ชำระเงินครบตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว
นายนิยม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับแนวทางในการดำเนินการขอชะลอการฟ้องร้อง/บังคับคดีและขายทอดตลาดทรัพย์สินของเกษตรกร สมาชิก กฟก.ตามมติคณะรัฐมนตรี ทาง ธ.ก.ส. ได้มีหนังสือ ที่ บน/9329 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เรื่อง แนวทางในการดำเนินการขอชะลอการฟ้องร้อง/บังคับคดีและขายทอดตลาดทรัพย์สินของเกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามมติคณะรัฐมนตรี เรียน เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยอ้างถึงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 เรื่อง การแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และยังคงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร
ธ.ก.ส. ขอเรียนว่า หากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) มีความประสงค์ให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสมาชิกกองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ธ.ก.ส. ขอความอนุเคราะห์ให้ กฟก. แจ้งความประสงค์โดยจัดทำเป็นหนังสือถึง ธ.ก.ส. ก่อนดำเนินการฟ้องร้อง บังคับคดี หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของเกษตรกร อย่างน้อย 15 วัน เพื่อ ธ.ก.ส. จักได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ต่อไป
“ทั้งนี้ จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงเกษตรกรสมาชิกกองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ในกลุ่มเป้าหมายที่ ธ.ก.ส. ดำเนินการฟ้องร้อง บังคับคดี หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของเกษตรกร ให้แจ้งความประสงค์กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัด อย่างน้อย 15 วัน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการขอชะลอการฟ้องร้อง/บังคับคดีและขายทอดตลาดทรัพย์สินของเกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามมติคณะรัฐมนตรี ต่อไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดเชียงราย (กฟก.) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ชั้น 1 โทรศัพท์ 053-150156 ในวันและเวลาราชการ” นายนิยม กล่าว
งานพ่อขุนเม็งรา…
วันที่ 18 ธันวา…
สถานคุ้มครองสวั…
เมื่อวันที่ 15 …