พ่อเมืองเชียงราย ขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ฟื้นฟูและบำบัดรักษาผู้ป่วยให้เป็นรูปธรรม ตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด วางมาตราการเข้ม 3 เดือน
เมื่อวันที่3 ธันวาคม2561 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานมอบนโยบาย ตามแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและลดปัญหาการลักลอบนำเข้า ลำเลียง และแพร่ระบาดยาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระยะเร่งด่วน 3 เดือน พฤศจิกายน 2561 – มกราคม 2562 ที่โรงเรียนเชียงของวิทยาคม อำเภอเชียงของ โดยมี นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ นำผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 2 ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวนทั้งสิ้น1,500 คนเข้าร่วมประชุมบูรณาการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรวมทั้งการฟื้นฟูและบำบัดรักษาผู้ป่วยให้เป็นรูปธรรมตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี
โดยแจ้งว่านายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยและสั่งการ ในด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งปัจจุบันในภาพรวมยังมีเคมีภัณฑ์ ลำเลียงเข้ามายังแหล่งผลิตนอกประเทศติดพื้นที่ชายแดน เมียนมา – จีน และ เมียนมา – ไทย อย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติการกดดันทุกรูปแบบมุ่งต่อชุมชนชายแดนที่เป็นแหล่งนำเข้า/พักยา ในพื้นที่เมืองใหญ่ พร้อมทั้งบูรณาการแผนการลดระดับปัญหายาเสพติด จำนวน 1,000 ตำบล ควบคู่กับการลดผลกระทบที่เกิดอาชญากรรมยาเสพติด โดยให้มีการนำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตามที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานในการประชุมบูรณาการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรวมทั้งการฟื้นฟูและบำบัดรักษาผู้ป่วยให้เป็นรูปทำตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ว่านายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยและสั่งการ ในด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งปัจจุบันในภาพรวมยังมีเคมีภัณฑ์ ลำเลียงเข้ามายังแหล่งผลิตนอกประเทศติดพื้นที่ชายแดน เมียนมา – จีน และเมียนมา – ไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยถ้ายังเป็นทาสยาบ้าที่สำคัญ สำหรับยาไอซ์ เฮโรอีนและกัญชา ถูกลำเลียงผ่านไทยส่งผ่านประเทศที่สามซึ่งเส้นทางหลักยังเป็นพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือและที่ประชุมได้กำหนดแผนบูรณาการขับเคลื่อนแก้ปัญหาร่วมกันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ภายใน 3 เดือน โดยจะเร่งส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน กวาดล้างแหล่งผลิต แหล่งพักยา และขบวนการค้ายาเสพติดนอกประเทศ และปฏิบัติการกดดันทุกรูปแบบมุ่งต่อชุมชนชายแดนที่เป็นแหล่งนำเข้า/พักยา ในพื้นที่เมืองใหญ่ พร้อมทั้งบูรณาการแผนการลดระดับปัญหายาเสพติด จำนวน 1,000 ตำบล ควบคู่กับการลดผลกระทบที่เกิดอาชญากรรมยาเสพติด โดยให้มีการนำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู
ในส่วนของจังหวัดเชียงรายนั้น ได้มีการกำหนดแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและลดปัญหาการลักลอบนำเข้า ลำเลียง และแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (พฤศจิกายน 2561 – มกราคม 2562) ซึ่งจากการประชุมร่วมกันระหว่างหัวหน้าหน่วยความมั่นคงในจังหวัดเชียงราย ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวอย่างเข้มข้น โดยเน้นการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วย รวมถึงใช้กลไกของกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เป็นกำลังหลักในการสอดส่องดูแล และเฝ้าระวังในเขตหมู่บ้าน/ตำบล
ซึ่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดเชียงราย ได้จัดทำแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและลดปัญหาการลักลอบนำเข้า ลำเลียง และแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงรายระยะเร่งด่วน 3 เดือน (พฤศจิกายน 2561 – มกราคม 2562) พื้นที่รับผิดชอบ คือหมู่บ้าน/ชุมชน โดยแบ่งพื้นที่ดำเนินการเป็น 2 พื้นที่ คือ 1 พื้นที่อำเภอชายแดนและอำเภอพื้นที่พิเศษ และ 2 พื้นที่อำเภอตอนใน ได้แก่ 1.อำเภอเชียงของ 2.อำเภอแม่ฟ้าหลวง 3. อำเภอแม่สาย 4.อำเภอแม่จัน 5.อำเภอเชียงแสน 6.อำเภอเวียงแก่น 7.อำเภอเทิง และพื้นที่อำเภอพิเศษอีก 2 อำเภอคือ 1.อำเภอดอยหลวง 2.อำเภอเวียงเชียงรุ้ง
โดยให้นายอำเภอประสานความร่วมมือกับกองกำลังป้องกันชายแดน ตำรวจตระเวนชายแดนและสถานีตำรวจพื้นที่ชายแดน จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน Re X-ray หมู่บ้านที่มีข่าวสารการพักยาเสพติด และประชาชนทำหน้าที่ขน/เป็นลูกหาบลำเลียงยาเสพติดช่วยแสวงหาความร่วมมือจากกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่มีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศพร้อมทั้งจัดระเบียบสถานที่อาจถูกใช้เป็นแหล่งพักยาเสพติดโดยการจัดทำแผนที่ชุมชนสำหรับโกดังเก็บสินค้าโรงแรมที่พักรีสอร์ทหรือสถานที่อื่นใดที่อาจใช้เป็นแหล่งพักยาเสพติดขับเคลื่อนโครงการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด
ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดยั่งยืนโดยขยายผลการดำเนินงานจากหมู่บ้านที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ประสบผลสำเร็จและยั่งยืนห้วยโจ้โมเดลโดยการแก้ไขปัญหาทุกมิติทางด้านการปราบปรามป้องกันบำบัดรักษาและการบริหารจัดการโดยให้ราษฎรในหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมีการดำเนินงานทุกมิติประกอบด้วยการคัดแยกผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดการนำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่ระบบบำบัดฟื้นฟูที่เหมาะสมการจัดตั้งจุดตรวจและจุดสกัดกั้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย
การพัฒนาและส่งเสริมอาชีพราษฎรโดยใช้แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการสร้างภาคีเครือข่าย การเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดสร้างความเข้มแข็งให้แก่หมู่บ้านอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนโครงการร้อยใจรักษ์ ในพื้นที่ 9 อำเภอ 17 ตำบล โดยการแก้ไขปัญหาพื้นที่ของหมู่บ้านชุมชนโดยการน้อมนำแนวทางศาสตร์พระราชมาพัฒนาทางเลือกอย่างยั่งยืนภายใต้โครงการร้อยใจรักษ์ เพื่อประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนให้เข้มแข็งในทุกมิติยกระดับเศรษฐกิจหมู่บ้านชุมชนส่งเสริมอาชีพให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่มี มีอาชีพมั่นคงมีรายได้ อย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ยั่งยืน
///////////////