เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย ที่ศาลาจังหวัดเชียงราย เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าและการเผาในที่โล่ง ของจังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย. 2562 โดยห้ามไม่ให้มีการเผาใด ๆ ทั้งสิ้นโดยเด็ดขาด โดยครั้งนี้มีการเรียก ว่าที่ ร.ต.กรกฎ ประเสริฐวงษ์ นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง นายสมบูรณ์ มาเยอะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่สลองนอก พร้อมกำนันและผู้ใหญบ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก และหน่วยงานทีเกี่ยวข้องเข้าไปรายงานสถานการณ์และหาทางแก้ไข หลังจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ได้เกิดเหตุไฟไหม้บริเวณป่าชุมชนซึ่งเป็นที่ดินปฏิรูปเพื่อการเกษตร (สปก.) ใกล้สุสานจีนในเขตหมู่บ้านสันติคีรีดังกล่าวเป็นบริเวณกว้างกว่า 23 ไร่ 83 ตารางวา จนเกิดเป็นจุดความร้อนหรือฮอตสปอตที่ดาวเทียมจับความร้อนได้
ซึ่งทางว่าที่ ร.ต.กรกฎ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้แจ้งว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นโดยที่ไม่สามารถตรวจจับได้ว่า บุคคลใดเป็นผู้ลงมือเผา คาดว่าจะเป็นการเผาเพื่อเอาที่ทำกินทางการเกษตร โดยไฟได้โหมลุกไหม้บริเวณป่าชุมชนอย่างรวดเร็วบริเวณสุสานจีนแต่สุสานไม่ได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุทางฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชาวบ้าน ได้ระดมกำลังกันเข้าไปดับไฟจนสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ทั้งนี้สาเหตุที่สามารถดับไฟได้อย่างรวดเร็วเพราะปัจจุบันทางในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ได้จัดหาเครื่องมือเป็นเครื่องพ่นน้ำและสายยางยาวประมาณ 200 เมตร เอาไว้ประจำทุกหมู่บ้านทั้ง 77 หมู่บ้าน ซึ่งสามารถใช้ขนส่งไปกับรถยนต์กระบะเพื่อให้สามารถลำเลียงไปดับเพลิงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกพื้นที่ เนื่องจากภูมิประเทศ อ.แม่ฟ้าหลวง ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงหากว่าไม่ใช้เครื่องมือชนิดนี้คงยากต่อการดับไฟ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราบ บอกว่า นับตั้งแต่มีมาตรการห้ามเผาโดยเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมาได้เกิดฮอตสปอตขึ้นในพื้นที่ จ.เชียงราย เพียงแค่ 3 ครั้ง คือในเขต ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงขจอง ต.ปอ อ.เวียงแก่น และ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ในครั้งนี้ดังกล่าวซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่นในภาคเหนือถือว่าเกิดขึ้นน้อยกว่ามากซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่คนในพื้นที่ยึดถือปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขกรณีเกิดไฟไหม้กันเป็นปกติทุกฤดูแล้งไปแล้ว โดยในปี 2560 เกิดขึ้นจำนวน 19 ครั้ง ปี 2561 จำนวน 17 ครั้ง สำหรับปีนี้ยังเหลือระยะเวลาอีกเดือนครึ่งจึงถือเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังกันต่อไป และจากนโยบายเดิมที่ตนเคยตั้งเป้าว่าจะไม่ให้เกิดการเผาขึ้นเลยแต่ได้เกิดขึ้นแล้ว 3 ครั้งนี้จึงถึงเวลาที่จะต้องรุกเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง โดยได้ให้ทาง ปภ.จัดทำแผนโดยจัดกำลังร่วมระหว่างพลเรือนนำโดยฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และป่าไม้ ให้ร่วมกันเข้าไปลาดตระเวณในพื้นที่ป่าโดยอาจใช้กำลังพลจุดละประมาณ 10 นาย เข้าไปพักค้างแรมในป่า 2 คืน 3 วันสลับกันไปโดยทาง อปท.ให้การสนับสนุนด้านเสบียง
นอกจากนี้ยังจัดให้กำลังอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) และอื่นๆ ภายในหมู่บ้านได้จัดเวรยามตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.และ 24.00-06.00 น.ผลัดละอย่างน้อย 2 นายหมุนเวียนกันไปเพื่อให้คอยสอดส่องดูแลหมู่บ้านและพื้นที่ของตนว่าเกิดการเผาหรือไม่เพื่อจะได้ป้องกันได้ทัน ซึ่งมาตรการทั้ง 2 ยังเพื่อป้องกันปรามไม่ให้กลุ่มคนที่อยากจะเผาได้เกรงกลัวและเกรงใจเจ้าหน้าที่ด้วย สำหรับพื้นที่ที่เกิดฮอตสปอตไปแล้วก็ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ไปทำการกระจายเสียงตามสายและจัดรถประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะ อ.แม่ฟ้าหลวง มีหมู่บ้านบริวารที่อาจห่างไกลไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารหรือประกาศห้ามเผาได้เข้าใจเพื่อจะได้ไม่ต้องเกิดเหตุเผาเช่นนี้กันอีกส่วนคนที่แจ้งเบาะแสก็มีรางวัลนำจับ 3,000 บาท ผู้กระทำความผิดจะถูกลงโทษตามกฎหมาย หากเกิดไฟไหม้ขึ้นแล้วก็จะได้ดับให้รวดเร็วเพราะหลายพื้นที่อาจจะเกิดไฟไหม้แล้วแต่สามารถระดมกำลังดับได้เร็วทำให้ไม่เกิดฮอตสปอตและไม่มีผลกระทบในที่สุดดังกล่าว///////