พบจุดความร้อนอีก 2 จุด เฝ้าระวังไฟป่าต่อเนื่อง

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562  ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงราย ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงราย เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าและการเผาในที่โล่ง จ.เชียงราย ปี 2561-25562 ในช่วงระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย.โดยห้ามไม่ให้มีการเผาใดๆ ทั้งสิ้นโดยเด็ดขาด โดยครั้งนี้ได้มีการเรียกนายอำเภอเทิงพร้อม กำนัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องจาก ต.ตับเต่า อ.เทิง และนายอำเภอแม่ฟ้าหลวง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ไปประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเพราะได้เกิดไฟป่าจนดาวเทียมจับภาพเป็นจุดความร้อนหรือฮอตสปอตในทั้ง 2 พื้นที่ได้

ทำให้ในปัจจุบัน จังหวัดเชียงราย เกิดจุดความร้อน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นมารวม  12 จุด ประกอบด้วย ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ โดยเกิดไฟลุกไหม้ในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรหรือ สปก.พื้นที่ ต.ปอ อ.เวียงแก่น เกิดขึ้นวันที่ 25 ก.พ.และ 1 มี.ค.ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ต.แม่สลอกนอก อ.แม่ฟ้าหลวง โดยเกิดขึ้นถึง 4 ครั้ง ในเขต สปก.ในวันที่ 26 ก.พ.จำนวน 1 จุด และวันที่ 5 มี.ค.ในเขต สปก.และป่าสงวนแห่งชาติ อีก 3 จุด ส่วนที่ ต.ตับเต่า ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และ ต.เอทดไทย เกิดขึ้นทั้งในวันที่ 4 และ 5 มี.ค.ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั้ง 2 จุด นอกจากนี้ในวันที่ 5 มี.ค.ยังเกิดฮอตสปอตพื้นที่ ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และวันที่ 6 มี.ค.เกิดขึ้นในเขตป่านอนุรักษ์ของ ต.ทานตะวัน อ.พาน ส่วนใหญ่เป็นการเผาเพื่อจะเอาพื้นที่ไปทำการเกษตรและแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดและให้ทางฝ่ายปกครองรวมทั้งองค์ปกครองปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้มงวดแต่ก็ยังคงมีคนลักลอบเข้าไปเผาในบางจุดอยู่ ทั้งนี้พบว่าตั้งแต่วันที่ 4-6 มี.ค.มีการเกิดฮอตสปอตบ่อยครั้งมากถึงที่สุดถึง 8 จุด อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติทั่วภาคเหนือตอนบนแล้วยังพบว่าเกิดฮอตสปอตต่ำสุดกว่าทุกจังหวัด

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าที่ประชุมยังได้สรุปสถิติการพบร่องรอยพื้นที่เผาไหม้จากดาวเทียมแลนด์แซต-8 ระหว่างวันที่ 1-16 ก.พ.นี้ว่าเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.เชียงราย แล้วประมาณ 165,704 ไร่ ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือในจังหวัดอื่นๆ พบว่า จ.ตาก พบจำนวน 442,779 ไร่ เชียงใหม่ 174,169 ไร่ ลำปาง 165,704 ไร่ แพร่ 133,345 ไร่ ลำพูน 125,109 ไร่ น่าน 56,450 ไร่ แม่ฮ่องสอน 44,172 ไร่ และพะเยา 32,925 ไร่ 

ว่าที่ ร.ต.ณรรงค์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้แต่ละพื้นที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจและขอให้งดเผาในช่วงที่ห้ามเผา นอกจากนี้ให้เข้มงวดด้านการจัดเวรยามลาดตระเวนตามพื้นที่เสียงต่างๆ ซึ่งจะเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดการเผาขึ้นอีก สำหรับสภาพอากาศโดยรวมนั้นยังคงพบว่าอยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และยังคงทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเป็นปกติอยู่แต่ก็ต้องเข้มงวดกันต่อไป ////

ข่าวอื่นๆ