Categories: ข่าว

ลักลอบเผาไม่หยุด “ประกาศจับให้10,000บาท” ชี้จับกุม

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเกิดการลักลอบเผาป่าในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย จนเกิดจุดความหรือฮอตสปอตและเป็นผลทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกลาดตระเวนป้องกันและดับไฟป่ารวมทั้งมีการจัดบกุมผู้ลักลอบเผาไปได้แล้วหลายรายนั้น ล่าสุดที่ อ.เวียงป่าเป้า ซึ่งเกิดไฟไหม้บ่อยครั้งทางนายอนันต์ สมุทรารินทร์ นายอำเภอเวียงป่าเป้า พร้อมด้วยปลัดอำเภอ สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เวียง และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครองได้ลาดตระเวนป้องกันไฟป่าพร้อมนอนค้างแรมในหมู่บ้านแม่ปูนหลวง หมู่ 8 ต.เวียง ซึ่งเกิดปัญหาไฟป่าและจุดความร้อนมากที่สุดใน อ.เวียงป่าเป้า เพื่อขอความร่วมมือราษฎรทุกหลังคาเรือนให้ช่วยสอดส่องดูแลอย่าให้มีการจุดไฟเผาป่า โดยมีการแจ้งว่าหากพบคนเผาทางอำเภอและจังหวัดจะมอบรางวัลนำจับให้คดีละ 10,000 บาทด้วย

ด้านนายสมกิจ เกศนาอคินทร์ นายอำเภอเมืองเชียงราย สั่งการณ์ระดมกำลังพลในพื้นที่ชุดปฏิบัติการตระเวนและป้องกันไฟป่าและหมอกควัน กนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง จิตอาสา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ เข้าดับไฟป่าในพื้นที่บ้านใหม่น้ำเย็น หมู่ 9 ต.ดอยลาน จำนวน 6 จุด หลังเกิดการลุกไหม้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนสามารถควบคุมไฟป่าได้ทุกจุดและอยู่ระหว่างเฝ้าระวังไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

ด้านพื้นที่อื่นๆ พบว่าเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังป้องกันตามผืนป่าต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพราะใกล้เข้าสู่ฤดูฝนจึงเกรงว่าจะมีการลักลอบเผา เนื่องจากผู้ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและบางคนให้เหตุผลว่าต้องการทำการเกษตรด้วยการปลูกพืชไร่ต่างๆ จึงจำเป็นต้องเผาเพื่อจับจองพื้นที่ก่อนฤดูฝน โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (เหยี่ยวไฟ) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เข้าพื้นที่ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยบ่อ พื้นที่บ้านห้วยขม หมู่ 10 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย พร้อมชาวบ้านเข้าดับไฟป่าไผ่ที่มีใบไม้แห้งเป็นบริเวณกว้างหลังระงับเหตุได้พบมีพื้นที่เสียหายประมาณ 70 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงทำแนวกันไฟเอาไว้ไม่ให้เกิดซ้ำแล้ว

ส่วนที่ อ.พาน นางภัทราวดี ปัญญา นายอำเภอพาน แจ้งว่าเกิดไฟไหม้พื้นที่หมู่ 11 ต.แม่อ้อ อ.พาน ซึ่งชุดปฏิบัติการดับไฟป่าและชาวบ้านสามารถควบคุมไฟทางทิศใต้เนื่องจากเป็นหุบเขาและหน้าผาสูงชันรวมทั้งมีลมตีกลับทำให้เกิดควันไปทั่วจนทำให้ผู้ดับไฟไม่สามารถหายใจได้สะดวก ทำให้ไฟลามไปยังทิศตะวันตกและทิศใต้ ได้รับความเสียหายประมาณ 500 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงทำแนวกันไฟเอาไว้และคาดว่าสอาจใช้เวลา 2 วันจึงจะทำให้ไฟสงบลงได้ต่อไป.

Kao Krai News

Recent Posts